'ม.33 เรารักกัน' เสียงสะท้อนผู้นำแรงงาน ขอบคุณรัฐบาล เยียวยาได้ตรงจุด 

'ม.33 เรารักกัน' เสียงสะท้อนผู้นำแรงงาน ขอบคุณรัฐบาล เยียวยาได้ตรงจุด 

เสียงสะท้อนผู้นำแรงงาน ขอบคุณรัฐบาล กระทรวงแรงงาน ธนาคารกรุงไทย เยียวยาโครงการ "ม.33 เรารักกัน" ได้ตรงจุด รวดเร็ว ระบบไม่ล่ม ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน รมว.แรงงาน ให้เจ้าหน้าที่ประกันสังคมประสานธนาคารกรุงไทย ตั้งโต๊ะลงทะเบียนในโรงงานหรือสถานประกอบการ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 นายมนัส โกศล ประธานองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวถึงโครงการ "ม.33 เรารักกัน" ว่าเป็นที่น่ายินดีที่โครงการนี้มีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านนายกรัฐมนตรี และกระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม และธนาคารกรุงไทย

เมื่อเปิดลงทะเบียนเพียงแค่ไม่กี่วัน ยอดก็พุ่งสูงขึ้นเกือบ 8 ล้านคนเข้าไปแล้ว จากผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เข้าข่ายมีสิทธิประมาณ 9.2 ล้านคน สะท้อนให้เห็นว่าระบบมีความลื่นไหล โครงการนี้ถือว่าได้ประโยชน์กับผู้ประกันตนหลายกลุ่ม ซึ่งพวกเขายังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยามาก่อน เช่น ลูกจ้างของรัฐ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย

แม้ว่าเงิน 4,000 บาท จะดูเหมือนไม่มาก แต่ก็สามารถช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มนี้ได้มาก เนื่องจากเขาสามารถนำเงินที่ได้รับสัปดาห์ละ 1,000 บาท จนครบ 4,000 บาท ไปจ่ายใช้ในสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เงินส่วนนี้สามารถนำไปใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างร้านธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ รวมถึงช่วยพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยอย่างหาบเร่แผงลอยได้ด้วย

โครงการ ม.33 เรารักกัน จะเกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง ส่วนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนในการลงทะเบียน ท่านรัฐมนตรี สุชาติ ชมกลิ่น ก็ได้มีแผนรองรับเอาไว้แล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่ประกันสังคมประสานธนาคารกรุงไทยเพื่อเข้าไปตั้งโต๊ะลงทะเบียนในโรงงานหรือสถานประกอบการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนกลุ่มดังกล่าว 

ด้านนายภาคภูมิ สุกใจ รองประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) และประธานสหภาพแรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ กล่าวถึงโครงการ ม.33 เรารักกัน ว่า ในฐานะเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน ขอขอบคุณรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านสุชาติ ชมกลิ่น ที่มองการณ์ไกล เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงาน โดยเฉพาะผู้ประกันตน มาตรา 33 ได้อย่างตรงจุด และเห็นความสำคัญของแรงงานในระบบที่เป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

เนื่องจากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงงานหลายแห่งได้รับผลกระทบ จนต้องใช้มาตรา 75 เพื่อประคับประคองให้กิจการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ พี่น้องแรงงานในโรงงานเองหลายคนถึงมีเงินเดือนแต่ก็ยังได้รับความเดือดร้อนพอๆ กันกับแรงงานภาคอิสระที่ได้รับการเยียวยาไปก่อนหน้านี้ แต่เมื่อรัฐบาลและท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้เล็งเห็นความสำคัญ จนในที่สุดปลดล็อคให้แรงงานในระบบได้รับการเยียวยาด้วยคนละ 4,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้จะหมุนเวียนในครอบครัวแล้ว ยังหมุนเวียนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งจะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวตามมาอีกด้วย