ไทยเตรียมหารือ”พาสปอร์ตวัคซีน”
คกก.โรคติดต่อแห่งชาติถก”พาสปอร์ตวัคซีน” 8 มี.ค.นี้ เผยพิจารณาวันกักตัวตามระยะฟักตัวของโรค ยังไม่มีข้อมูลฉีดวัคซีนแล้ว ระยะฟักตัวลดหรือยาวขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปตามในการพิจารณาเรื่องพาสปอร์ตวัคซีน นพ.โอภาส การย์กวินพงส์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขได้ให้นโยบายในการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งตามพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มอบอำนาจให้หน่วยงานรัฐออกหนังสือรับรองในการฉีดวัคซีนได้ ซึ่งในส่วนของผู้ที่ได้วัคซีนโควิด-19ครบแล้ว กรมจะออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนให้ทุกคน เพื่อใช้ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งบางประเทศอาจจะกำหนดให้ต้องแสดงหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าประเทศแล้วไม่ต้องกักตัว แต่ยังไม่มีประเทศไหนประกาศเป็นทางการ โดยขอได้ที่กรมควบคุมโรค ที่อาจจะมอบให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) หรือผอ.รพ.ออกให้ได้
นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ส่วนคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทย หากมีหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าหนังสือที่จะมีการนำมายื่นนั้นเป็นการฉีดวัคซีนอะไร และหน่วยงานใดออกหนังสือรับรอง ซึ่งคณะทำงานกำลังดูในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นองค์การอนามัยโลกหรือฮู(WHO)ยังไม่ได้กำหนดรับรองในเรื่องพาสปอร์ตวัคซีนแต่อย่างใด จึงอาจจะต้องใช้การเจรจาระหว่างประเทศและตกลงร่วมกัน โดยประเทศไทยก็กำลังพิจารณาดำเนินการ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศจะต้องเจรจาและมีความพร้อมร่วมกัน ทั้งนี้ จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติที่มีนายอนุทิน เป็นประธานในวันที่ 8 มี.ค.นี้
“การกักตัวของประเทศไทย พิจารณากำหนดวันตามระยะฟักตัวของโรค ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครตอบได้ว่าเมื่อฉีดวัคซีนครบแล้ว ระยะฟักตัวของโรคจะเป็นอย่างไร อาจจะสั้นลงหรือมากขึ้นก็ได้ เนื่องจากขณะนี้วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อ 100 % ก็จะมีการหารือในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติด้วย”นพโอภาสกล่าว