'แอมมี่ the bottom blues' รอฟังความเห็นแพทย์ ตร.จ่อสอบปากคำ-ฝากขัง
รอง ผบช.น. ยันรวบ "แอมมี่ the bottom blues" ได้คาห้องเช่าในอยุธยา เผยส่งตัวเข้ารับการรักษาแล้วหลังอ้างป่วย ลั่นเตรียมขอตัวเข้าสอบปากคำใน กทม. และฝากขัง ย้ำต้องรอฟังความเห็นแพทย์ก่อน แจ้งผิด 3 ข้อหา
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการจับกุม นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ the bottom blues ฐานเกี่ยวข้องกับคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ว่า ยืนยันจับได้เรียบร้อย เมื่อเวลา 24.40 น. ที่ผ่านมา โดยทาง บชน. ควบคุมตัว ตามหมายจับศาลอาญา เพื่อนำสู่กระบวนการสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ที่ห้องเช่าในอ.พระนครศรีอยุธยา จ.อยุธยา และเมื่อถูกจับ แอมมี่ แจ้งว่ามีอการเจ็บป่วย จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้สุด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุม ก่อนทำเรื่องขอตัวมายังโรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ กรณีคดีเผาหน้าคุกคลองเปรม เบื้องต้นได้แจ้ง 3 ข้อหาให้รับทราบ คือ ความผิดตามมาตรา 112 วางเพลิงเผาทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ สำหรับอัตราโทษ จำคุก 20 ปี ขึ้นไป แต่ในมาตรา 112 มีโทษ จำคุกตลอดชีวิตและประหาร ส่วนพวกอัก 2 คน ซึ่งเป็นชาย 1 คน แลหญิง 1 คน อยู่ระหว่างหลบหนี และในเวลา 11.00 น. วันนี้ ทาง ผบช.น. จะแถลงรายละเอียดเพิ่มเติม โดยยืนยันหลักฐานทั้งหมดมาจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเห็นชัดเจน
พล.ต.ต.ปิยะ เล่าเหตุการณ์เข้าควบคุมตัว แอมมี่ อยู่ในสภาพอ่อนเพลีย เหน็ดเหนื่อยจากการหลบหนี และมีร่องรอยตามปรากฏเป็นข่าว แต่เจ้าตัวยังไม่ให้การ สำหรับขั้นตอนวันนี้ ถ้าเอามากรุงเทพ ทางพนังงานสอบสวน จะเดินทางไปสอบปากคำ เพื่อรวบไว้ในสำนวนสอบสวน พิมพ์มือ ตรวจสอบประวัติ และฝากขัง
อย่างไรก็ตาม หากนำตัวไปไม่ได้ คือ ต้องฝากขังเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ และขอศาลไปฝากขังโรงพยาบาลในเรือนจำ หรือทัณฑสถาน หากนำตัวมาได้ ก็ต้องฟังความเห็นแพทย์ ว่าจะเคลื่อนย้ายไปยังที่ทำการเจ้าหน้าที่ได้หรือไม่ หากทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิต หรือต้องใกล้ชิดแพทย์ ก็ต้องนำไปโรงพยาบาลตำรวจ แต่หากไม่มีความเห็นขนาดนั้น ก็จะนำตัวไปที่ทำการพนักงานสอบสวนทันที
ส่วนคดีของ แอมมี่ จากการตรวจสอบเบื้องต้น ได้รับประกันตัวไปหลายคดี และก็ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนอีกหลายคดี ทำให้พนักงานสอบสวนต้องทำเรื่องขอคัดค้านประกันตัว เพราะผู้ต้องหาละเมิดกฎหมาย และกระทำผิดบ่อยครั้ง ส่วนรถใช้ก่อเหตุเป็นของมารดาแอมมี่ โดยจะนำตัวมาสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับคดีอย่างไร
พล.ต.ต.ปิยะ ย้ำว่า ขอสงวนผลการสอบปากคำเยาวชน 17 ปี ไว้ในสำนวน แต่เรื่องดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์จากสื่อมวลชน ประชาชน และกลุ่มการ์ดบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำ ได้ส่งข้อมูลมาให้ ทำให้การสอบสวนบุคคลชัดเจน และออกหมายเรียกบุคคลเกี่ยวข้องมากขึ้น อีกทั้ง จะสอบเพิ่มว่ามีใครสนับสนุนและร่วมขบวนการบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มบุคลนำภาพไปกระจายต่อ ถือว่ามีความตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์