ค้าปลีกคาดกำลังซื้อฟื้นกลางปี 65

ผลกระทบโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกในปี 2563 ทำให้ยอดรายได้ลดลงไปเกือบ 20% แม้ปีนี้ไทยจะได้วัคซีนแต่กำลังซื้อจะกลับมาเป็นปกติต้องใช้เวลาถึงกลางปี 2565 ติดตามได้จากรายงาน

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทบอุตสาหกรรมทุกภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่รายได้ลดลงจากกำลังซื้อภายในประเทศหดหายตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ แม้ขณะนี้ไทยจะมีวัคซีนโควิด และเริ่มทยอยฉีดในกลุ่มต่างๆ แต่กำลังซื้อจะกลับมาเป็นปกติได้คาดว่าจะใช้ระยะเวลาถึงกลางปี 2565

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ประเมินสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ซึ่งกระทบน้อยกว่ากว่าการระบายโควิดในรอบแรก เห็นได้จากปริมาณของคนที่เข้ามาใช้บริการห้างสรรพสินค้า พบว่าการระบาดรอบแรกมีการล็อกดาวน์กว่า 3 เดือน ทำให้ยอดทราฟฟิคหายไป 30-40% ปัจจุบันทราฟฟิคหายไปประมาณ 10% กว่าๆเท่านั้น จากปกติที่จะมียอดคนมาใช้บริการในห้างสรรพสินค้าประมาณ 4 หมื่นคน-1 แสนคนต่อวัน ซึ่งแล้วแต่สาขา

ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากที่ไทยกระจายวัคซีนได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น จะทำให้ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 กำลังซื้อเริ่มดีขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าคงยังไม่กลับมาเป็นปกติในปีนี้ เพราะกลุ่มลูกค้า เช่น พนักงานโรงแรม สายการบิน ยังได้รับผลกระทบทำให้เการใข้จ่ายหายไปในส่วนนี้ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมา ดังนั้นกำลังซื้อจะกลับมาเป็นปกติเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 น่าจะฟื้นตัวประมาณกลางปี 2565

ด้านผลประกอบการของเครือเดอะมอลล์ปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 5-10% จากปี 2563 ที่ติดลบเกือบ 20% แต่ทางเครือเดอะมอลล์ ยังคงเตรียมแผนกิจกรรมทั้งปี 30-40 กิจกรรมต่อสาขา โดยใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อและช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เช่น กิจกรรม “เดอะมอลล์ แฮปปี้เดย์ เปย์คนละครึ่ง” ที่จะดึงร้านค้ารายย่อย 150 แห่งมาออกงานภายในห้างสรรพสินค้า

ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจ บิซ อินไซต์ รายงาน