‘ซูเปอร์โพล’ ชี้ ปชช.ผิดหวังนักการเมืองแย่งตำแหน่ง รมต. ยิ่งเติมเชื้อไฟม็อบ

‘ซูเปอร์โพล’ ชี้ ปชช.ผิดหวังนักการเมืองแย่งตำแหน่ง รมต. ยิ่งเติมเชื้อไฟม็อบ

“ซูเปอร์โพล” ชี้ประชาชนผิดหวังนักการเมือง แย่งตำแหน่งรัฐมนตรี มุ่งถอนทุนคืน มากกว่าทำงานเพื่อแก้ความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชน ยิ่งเติมเชื้อไฟม็อบ

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.64 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง "การเมือง อย่าสุมไฟ ม็อบ" กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,473 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 3 – 7 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

ประเด็นที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ เกือบร้อยละร้อยคือร้อยละ 99.8 ระบุ นักการเมือง มุ่งแต่แย่งตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่ดีต่อสถานการณ์บ้านเมืองความขัดแย้งในหมู่ประชาชนตอนนี้ ในขณะที่ ร้อยละ 99.2 ผิดหวังนักการเมือง แย่งตำแหน่งรัฐมนตรี มุ่งถอนทุนคืน มากกว่าทำงานเพื่อแก้ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน และร้อยละ 98.7 เสื่อมศรัทธาต่อ นักการเมือง แย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกัน ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันนี้

161510729969

ขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.0 เชื่อมั่นต่อ จิตวิญญาณทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เด็ดขาดเลือกคนดีเป็นรัฐมนตรี แก้วิกฤตชาติและวิกฤตของประชาชน นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.2 เชื่อค่อนข้างมากถึงมากที่สุดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเลือกข้างผลประโยชน์ชาติและของประชาชน มากกว่า ผลประโยชน์ของนักการเมืองที่จะถอนทุนคืน ในขณะที่ร้อยละ 23.0 ระบุปานกลางและร้อยละ 12.8 ระบุค่อนข้างน้อยถึงไม่เชื่อเลย

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.1 ประเมินการแก้ปัญหาโควิดโดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า จัดการแก้วิกฤตโควิดได้ดีค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 23.7 ระบุปานกลาง และร้อยละ 11.2 ระบุค่อนข้างน้อยถึงไม่ดีเลย

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อนักการเมืองที่วิ่งเต้นแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีในช่วงชาติบ้านเมืองวิกฤตโควิด วิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตความขัดแย้งที่อาจจะรุนแรงบานปลายมากขึ้นถ้าไปกดดันนายกรัฐมนตรีให้ตัดสินใจเลือกใช้คนไม่ตรงจุดไม่ตอบโจทย์สถานการณ์ความขัดแย้งของคนในชาติเวลานี้ เพราะประชาชนยังเชื่อมั่นในจิตวิญญาณทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่จะเลือกข้างผลประโยชน์ชาติและของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของนักการเมืองที่จะถอนทุนคืน ถ้า นายกรัฐมนตรี ทำสำเร็จเสาหลักของชาติก็จะเป็นที่รักของประชาชนอย่างยั่งยืน

"แต่ขบวนการม็อบลุ่มลึกกว่าการเมือง เปราะบางมากเกินกว่าจะมองแค่เปลือกภายนอกแล้วมาแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันเพื่อผลประโยชน์ฝ่ายการเมืองไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะฝ่ายการเมืองกำลังถูกลากเข้าไปอยู่ในเกมสุมไฟม็อบสร้างความขัดแย้งรุนแรงบานปลายของคนในชาติ ดังนั้น ฝ่ายการเมืองต้องนิ่งและอยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ต้องเป็นเนื้อเดียวกัน และจะรอดทั้งหมด เพราะขบวนการที่ร้ายกาจกว่านักการเมืองกำลังทำงานเข้าเป้ามากกว่า ขณะที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองอาจจะปฏิบัติการตามเกมที่พวกเขาออกแบบกันมาอย่างเข้มข้นตั้งแต่ปี 57 – 63 เป็นเงาตามตัวผู้มีอำนาจ (The Power) มาตลอด ข้อเสนอแนบท้าย คือ ตอนนี้ ณ เวลานี้ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องช่วยกันคัดคนดี คนเก่ง คนกล้า มาช่วยคุมเกม" นายนพดล กล่าว