สหรัฐนำทีม ‘4 ฝ่าย’ใช้การทูตวัคซีน‘ต้านจีน’
รมว.ต่างประเทศอินเดียเผย ผู้นำสหรัฐ อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นเห็นชอบระดมพลังเตรียมส่งวัคซีนโควิด 1 พันล้านโดสทั่วเอเชียภายในปี 2565
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน นายฮาร์ช วาร์ดัน ชริงลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แถลงวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า กลุ่ม 4 ฝ่าย (Quad) อันประกอบด้วยสหรัฐ อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ต้องการเพิ่มการฉีดวัคซีนทั่วโลก รับมือกับการทูตวัคซีนของจีนที่เพิ่มขึ้นมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก
ในกลุ่มนี้อินเดียเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่สุดของโลก รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียกล่าวหลังการประชุม 4 ฝ่ายออนไลน์ว่า นี่เป็นความร่วมมือที่น่าประทับใจและทรงคุณค่าที่สุด
“4 ประเทศเห็นพ้องกับแผนการระดมทรัพยากรทางการเงิน ขีดความสามารถในการผลิต ความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก เราเชื่อว่านี่จะเร่งกระบวนการฟื้นตัวหลังโควิดทำให้ครัวเรือนและภาคธุรกิจผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ได้”
ในโอกาสนี้ อินเดียจะใช้ความสามารถในผลิตทำวัคซีนของสหรัฐ โดยใช้เงินทุนจากสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (ไอดีเอฟซี) และธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (เจบิก)
ส่วนออสเตรเลียจะให้เงินสนับสนุนการฝึกอบรมและการกระจายวัคซีนขั้นสุดท้าย ซึ่งจะส่งไปถึงหมู่เกาะแปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศในมหาสมุทรอินเดีย
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้อาจมีปัญหาจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐต่อวัตถุดิบสำคัญสำหรับซัพพลายเชนวัคซีนของอินเดีย นายชริงลากล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องระหว่างอินเดียกับสหรัฐ ที่ทูตอินเดียประจำกรุงวอชิงตันยกขึ้นมา รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียระบุด้วยว่า เป็นประเด็นสำคัญมาก แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียด พร้อมเสริมว่า โครงการของกลุ่ม 4 ฝ่ายจะไม่กระทบกับการผลิตวัคซีนสำหรับประชากรอินเดีย 1.4 พันล้านคน