“วันกัญชาโลกแห่งประเทศไทย” เที่ยว 'ทัวร์กัญชา' อย่างไรให้เพลิน?

 

“อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ได้รับผลกระทบอย่างหนักเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งรัฐบาลได้ออกนโยบายมากมายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศส่งเสริมไทยเที่ยวไทย  โดย “ทัวร์กัญชา” หรือ“เส้นทางกัญชาทางการแพทย์” แพ็กเกจทัวร์ เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวพร้อมส่งเสริมสุขภาพของนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเปิด “เส้นทางกัญชาทางการแพทย์ ” โดยขณะนี้อยู่ระหว่างออกเกณฑ์การเข้าเยี่ยมชมพื้นที่เพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์ เพื่อเปิดขายแพ็กเกจ “ทัวร์กัญชา” ทั่วประเทศ  เบื่องต้นจะนำร่องใน 8 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ สมุทรสงคราม ลำปาง นครราชสีมา แม่ฮ่องสอน สกลนคร  ชลบุรี และพัทลุง

งาน “วันกัญชาโลกแห่งประเทศไทย” ประจำปี2564 ครั้งแรกของความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนร่วมกับภาครัฐในการจัดเวทีเกี่ยวกับ “กัญชากัญชง” ที่นอกจากแสดงผลงานวิจัยผลิตภัณฑ์ “กัญชากัญชง” การให้ความรู้ทั้งด้านกฎหมาย เทคโนโลยีการสกัด การพัฒนาสายพันธุ์ หลักการตลาดแล้ว ยังเป็นการจัดทำแผนการท่องเที่ยว “เส้นทางกัญชาทางการแพทย์” รวบรวมเครือข่ายบริษัททัวร์ และธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อันนำไปสู่การเสนอแผนต่อรัฐบาล

• เล็งจัดทำแพ็กเกจ “ทัวร์กัญชา” ดึงดูดนักท่องเที่ยว

นายคมสรรค์ วิจิตรวิกรม ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ กล่าวว่าตอนนี้  แต่ละบริษัททัวร์ และธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ได้ให้ความสนใจในการจัดทำแพ็กเกจทัวร์ “เส้นทางกัญชาทางการแพทย์” ซึ่งการออกแบบคงไม่ใช่เพียงการบอกว่ามีเส้นทางอะไร และพาไปชม แต่ต้องเป็นการเล่าเรื่อง ประชาชนคนในพื้นที่ต้องมีองค์ความรู้ ต้องมีการนำสมุนไพร ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ผสมผสาน

ต้องมีผลิตภัณฑ์จาก “กัญชากัญชา” และสมุนไพรไทย และต้องนำเสนอแตกต่างกัน เพราะกัญชากัญชงในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน เนื่องจากสายพันธุ์แต่ละจังหวัดอาจไม่เหมือนกัน การจะเล่าเรื่อง “เส้นทางกัญชาทางการแพทย์” จะต้องทำให้คนในพื้นที่มีความรู้ และบริษัททัวร์ต่างๆ เข้าใจมีความรู้เรื่องกัญชากัญชงร่วมด้วย

 

“การจะทำเส้นทางกัญชาทางการแพทย์ เป็นนโยบายที่ดีและส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ดี  แต่คงจะไม่สามารถทำทัวร์ ไปเยี่ยมชมอย่างเดียว ต้องมีการนำเสนอเรื่องราวของคนในพื้นที่ โดยมีกัญชากัญชงเป็นตัวชูโรง และอัตลักษณ์แต่ละชุมชนเข้าไปผสมผสานเพื่อให้ชุมชนยั่งยืน”นายคมสรรค์ กล่าว

อีกทั้งประเทศไทยมีผู้สูงอายุมากขึ้น และตอนนี้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อยากเที่ยว หากทำเส้นทางกัญชาทางการแพทย์ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวสุขภาพ  ทุกคนได้เข้าใจและรู้จักกัญชากัญชงมากขึ้น รวมทั้งสมุนไพรอื่นๆ และได้สนับสนุนแพทย์แผนไทยในจังหวัด ซึ่งการท่องเที่ยวสามารถส่งเสริมเรื่องเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

• แนะสร้างความรู้ความเข้าใจนักธุรกิจสายท่องเที่ยว

ปัจจุบัน การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจ “กัญชากัญชง” มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การปลูก การผลิตผลิตภัณฑ์ การท่องเที่ยว เพราะต้องยอมรับว่า “กัญชากัญชง” ยังไม่มีงานวิจัยรองรับมากมาย หรีอมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เมื่อเทียบกับต่างประเทศ  

นายคมสรรค์ กล่าวต่อว่าทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ ท่องเที่ยวมีอยู่แล้ว แต่สินค้า “กัญชากัญชง” ยังไม่มี ซึ่ง “กัญชากัญชง” จะทำให้เป็นธุรกิจ เป็น "ทัวร์กัญชา" สร้างรายได้แก่การท่องเที่ยวนำพาเศรษฐกิจของประเทศได้ จำเป็นต้องมีแผนแม่บทที่ชัดเจน จะได้รู้ว่าแต่ละอุตสาหกรรมต้องทำอะไร

การท่องเที่ยวและการบริการ แพ็กเกจทัวร์ต้องมี 2 ส่วน คือนักท่องเที่ยวในประเทศ ต้องให้เกิดทัวร์เที่ยวไทย ทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุ และนักท่องเที่ยวไทย ขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากให้ไปสัมผัสประสบการณ์แล้ว ต้องมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ

จากการสอบถามไกด์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่าหากมีผลิตภัณฑ์ "กัญชากัญชง" นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนสนใจสั่งซื้อแน่นอน ดังนั้น ต้องทำการตลาดให้คนในประเทศและต่างชาติรู้จัก “ทัวร์กัญชา” และผลิตภัณฑ์ “กัญชากัญชง” ด้านสุขภาพ เน้นการบำบัด รักษา จะช่วยผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวให้มากขึ้น คาดว่าหากทำได้จะมีมูลค่าเป็นล้านล้านบาท

• “วันกัญชาโลกแห่งประเทศไทย” เปิดประตูธุรกิจกัญชาสู่สากล

ด้าน Mr.Jacky Ong  CEO บริษัท ซีไอเอสดับเบิ้ลยู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน “วันกัญชาโลกแห่งประเทศไทย” ประจำปี 2564 กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือของหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาคเอกชน หรือภาครัฐ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ประเทศไทยได้เข้าสู่กัญชากัญชงถูกต้องตามกฎหมายในด้านการแพทย์ และถึงจะเป็นเพียงบางส่วนของกัญชากัญชง แต่จะทำให้กัญชากัญชงทางการแพทย์ของไทยเข้าสู่ระดับเอเชีย ไปถึงระดับโลกได้ เพราะในอาเซียนตอนนี้มีเพียง ประเทศไทยประเทศแรกที่นำร่องในเรื่องนี้

"วันกัญชาโลกแห่งประเทศไทย  เป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยที่สนใจเกี่ยวกับกัญชากัญชงทางการแพทย์ ทางธุรกิจ และทางท่องเที่ยว ในประเทศไทยได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รับทราบข้อมูลตั้งแต่เรื่องของกฎหมาย ข้อจำกัดต่างๆ การสร้างเทคโนโลยี การพัฒนาสายพันธุ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์  และทิศทางการตลาด  อีกทั้ง เป็นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ  เนื่องจากตอนนี้ต้องยอมรับว่ามีนักธุรกิจสนใจกัญชากัญชงอย่างมาก แต่ยังไม่รู้เส้นทางการขาย อีกทั้งเป็นการประกาศให้ต่างชาติรู้ว่าประเทศไทย นักธุรกิจไทยพร้อมในการผลักดันสร้างธุรกิจกัญชากัญชงให้มีมาตรฐานและเป็นสินค้าส่งออกได้” Mr.Jacky กล่าว

• “หลักสูตรที่ปรึกษาธุรกิจกัญชาฯ”ทำธุรกิจกัญชาถูกกฎหมาย

ตบท้ายด้วย  นายสุรชาติ ประชาพิทักษ์ นายกสมาคมนวัตกรรมสมุนไพรไทย กล่าวว่าสมาคมฯ มีบทบาทในการให้ความรู้ และเป็นเวทีกลางให้แก่บริษัทในประเทศนำนวัตกรรมสมุนไพร หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมสมุนไพรมาใช้ในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ  ซึ่งเมื่อมี “กัญชากัญชง” เป็นพืชที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และนักธุรกิจบางคนก็สนใจนำมาแทนสินค้าเกษตรกรรม

ตอนนี้ ปัญหาหลัก คือ ทุกคนยังขาดองค์ความรู้ทั้งด้านกฎหมาย การปลูก การผลิตภัณฑ์ รวมถึงประเทศไทยผ่านมา 50 ปี มีงานวิจัยด้าน  “กัญชากัญชง” น้อยมาก เทคโนโลยีเราก็ไม่มี เมื่อเทียบกับต่างชาติ ที่เขาศึกษาวิจัยมานาน และขณะนี้พัฒนา “กัญชากัญชง” รักษาโรคมะเร็งเฉพาะส่วนได้ด้วย

“ทางสมาคมฯได้มีการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการผลิตคิดค้นนวัตกรรมกัญชากัญชง แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ดังนั้น ตอนนี้จึงได้มีการจัดทำหลักสูตรที่ปรึกษาธุรกิจกัญชาและอุตสาหกรรมกัญชา ซึ่งจะเปิดอบรมใน 1-2 เดือน เพราะทุกที่ต้องการคนที่จะมาช่วยให้การปรึกษา ตั้งแต่การปลูก การผลิต การวางแผนทางธุรกิจ ในงานวันกัญชาโลกแห่งประเทศไทย จะมีการนำเสนอให้ความรู้ในเรื่องเหล่านั้น” นายสุรชาติ กล่าว

หากใครสนใจเกี่ยวกับธุรกิจกัญชากัญชงอยากให้เปิดโอกาสตัวเองเข้าร่วมงานระหว่างวันที่ 19-20 เม.ย.2564 ณ โรงแรม คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท โดยภายในงานจะมีการสัมมนาให้ความรู้ในทุกเรื่องเกี่ยวกับกัญชา และมี 50 บูธ ธุรกิจกัญชากัญชงที่จะช่วยให้ทุกคนมีเส้นทางธุรกิจของตนเองได้ 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ต้องรู้อยากปลูก "กัญชากัญชง" ให้รวย

ส่งออก“กัญชง” ปี64อย.อนุญาตบริษัทเดียว

อย. ยืนยันขออนุญาตปลูกกัญชง ไม่ยุ่งยาก ไม่ล่าช้า