'ทัวร์เที่ยวไทย' ครม.เคาะแล้ว เปิดเงื่อนไขใครได้ 5,000 บ้าง?

วันนี้ (23 มี.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี นำทีมเศรษฐกิจแถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือจากโควิด-19 ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ในประเด็นเกี่ยวกับโครงการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยมีอยู่หลากหลายมาตรการด้วยกัน หนึ่งในมาตรการที่น่าจับตามองคือโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" ที่ตั้งงบประมาณไว้ที่ 5,000 ล้านบาท

ในประเด็นนี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" (สศช.) ได้แถลงถึงรายละเอียดของโครงการ รวมถึงเปิดเงื่อนไขของโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" ดังนี้ 

1. "ทัวร์เที่ยวไทย" รัฐช่วยจ่ายไม่เกิน 5,000 บาท

ทัวร์เที่ยวไทย เป็นโครงการใหม่จากภาครัฐที่นำมากระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว โดยเป็นลักษณะแบบโคเพย์เมนต์ (Co-Payment) รัฐช่วยสนับสนุนค่าเดินทาง ในลักษณะร่วมจ่าย 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน รัฐกำหนดสิทธิให้ประชาชนจำนวน 1 ล้านสิทธิ

2. ต้องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์

นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ จะต้องเดินทางท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการนำเที่ยวหรือบริษัททัวร์ ในเบื้องต้นวางราคาไว้ที่ 12,500 บาทต่อ 1 โปรแกรมการท่องเที่ยว

อัพเดทล่าสุด..  (เวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 23 มี.ค.) มีข้อมูลจากนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว Rachadaspoke ระบุเกี่ยวกับโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" เพิ่มเติมว่า รัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางของประชาชนในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ร้อยละ 40 ของค่าใช้จ่ายแพ็คเกจนำเที่ยว แต่ไม่เกิน 5,000 บาท โดยต้องเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ไม่ต่ำกว่า 3 วัน 2 คืน โดยราคาของโปรแกรมท่องเที่ยวไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ

โครงการนี้จะให้สิทธิแก่ประชาชนจำนวน 1,000,000 สิทธิ วงเงินงบประมาณ 5,000 ล้านบาท ประชาชนสามารถใช้สิทธิในโครงการฯ ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2564

สำหรับผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ นักท่องเที่ยวที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน โดยนักท่องเที่ยว 1 คน สามารถใช้สิทธิตามโครงการฯ ได้ 1 สิทธิ และได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับประชาชนผู้ท่องเที่ยวที่ได้รับเงินสนับสนุนหรือประโยชน์ใดๆ

สำหรับผู้ประกอบการ ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการท่องเที่ยวก่อนวันที่ 1 ม.ค. 63 ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติโดยกรมการท่องเที่ยว สามารถรับนักท่องเที่ยวได้บริษัทละ 3,000 ราย

3. บริษัททัวร์ต้องจัดทำโปรแกรมเที่ยว 3 วัน 2 คืน

ทางบริษัททัวร์จะต้องสมัครเข้าร่วมโครงการทัวร์เที่ยวไทย กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จากนั้นให้จัดทำโปรแกรมเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน โดยในโปรแกรมนั้นๆ จะต้องระบุชื่อโรงแรม ชื่อร้านอาหารที่อยู่ในโปรแกรมให้ชัดเจน จากนั้น ททท. จะมีคณะทำงานมาเช็คข้อมูลดูว่ามูลค่าที่จะชาร์จกับนักท่องเที่ยวนั้น มีความเหมาะสมหรือไม่?

4. บริษัททัวร์ 1 แห่ง รับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 3,000 ราย

ททท. กำหนดให้บริษัททัวร์รับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 3,000 รายต่อ 1 บริษัท (อ้างอิงจาก :  Rachadaspoke)

5. ระยะเวลาโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" 4 เดือน

เริ่มเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2564 รวมทั้งสิ้นระยะเวลา 4 เดือน เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวช่วงกลางปี 2564 

6. ซื้อโปรแกรม "ทัวร์เที่ยวไทย" ต้องจ่ายผ่านแอพฯ "เป๋าตัง"

สำหรับวิธีการใช้งาน "ทัวร์เที่ยวไทย" นักท่องเที่ยวต้องไปดูในเว็บไซต์ของ ททท. แล้วเลือกโปรแกรมท่องเที่ยวที่ท่านต้องการ จากนั้นให้ดำเนินการติดต่อบริษัททัวร์เจ้าของโปรแกรมนั้นๆ และชำระเงินผ่านแอพฯ "เป๋าตัง" เท่านั้น จะไม่มีการชำระเงินในลักษณะอื่น จะเป็นการสแกนจ่ายระหว่างแอพฯ เป๋าตังกับถุงเงิน กล่าวคือผู้ประกอบการนำเที่ยวเองก็ต้องมีแอพฯ "ถุงเงิน" เอาไว้รับเงินจากลูกค้าด้วย

7. ป้องกันการทุจริตด้วยการ "สแกนใบหน้า" ผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ การใช้งานยังกำหนดให้ต้องมีการ "สแกนคิวอาร์โค้ด" และ "สแกนใบหน้า" ของผู้ใช้งาน (นักท่องเที่ยว) ระหว่างเข้าโปรแกรมทัวร์ หรือเดินทางไปยังโรงแรม และร้านอาหารต่างๆ ที่อยู่ในตัวโปรแกรมการท่องเที่ยวนั้นๆ ด้วย ส่วนทางบริษัททัวร์เองก็ต้องกด "สแกนสถานที่ท่องเที่ยว" แห่งนั้นๆ ที่อยู่ในโปรแกรมด้วย เพื่อคัดกรองตรวจสอบว่ามีการเดินทางไปใช้สถานที่นั้นจริง

โดยทางธนาคารกรุงไทย และ ททท. จะนำข้อมูลจากการสแกนเหล่านั้น มาใช้ตรวจสอบในการดำเนินงานในโครงการ "ทัวร์เที่ยวไทย" เพื่อให้เกิดความโปร่งใส 

----------------------

ที่มา : แถลงข่าวมาตรการช่วยเหลือภาคท่องเที่ยว ไทยคู่ฟ้า , รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล