ออมสินชูดอกเบี้ย 14.99% ‘จำนำ’ มอเตอร์ไซค์

ออมสินชูดอกเบี้ย 14.99% ‘จำนำ’ มอเตอร์ไซค์

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) ธนาคารออมสินร่วมทุนศรีสวัสดิ์ เข้าถือหุ้น 49% ในบริษัทเงินสดทันใจ ด้วยเงินลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันโดยคิดอัตราดอกเบี้ย 14.99% ต่อปี เจาะกลุ่มลูกค้าฐานราก

ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน วิทัย รัตนากร เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และจักรยานยนต์ โดยเข้าร่วมทุนกับบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด มีเป้าหมายหลักในการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาความยากจน โดยช่วยให้กลุ่มคนฐานรากที่มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่เป็นธรรมหรือถูกลง ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากการแบกรับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ โดยในช่วงแรกจะเริ่มด้วยการเปิดรับจำนำทะเบียน รถจักรยานยนต์พร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 14.99% ต่อปี หรือเท่ากับ 0.69% ต่อเดือน

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำจะสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดทำให้คู่แข่งขันของธุรกิจ Non-Bank ทยอยลดอัตราดอกเบี้ยลง จากปกติที่ส่วนใหญ่คิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถอยู่ที่ระดับ 24% - 28% ต่อปี โดยท้ายที่สุดสามารถลดโครงสร้างดอกเบี้ยทั้งระบบ เกิดผลลัพธ์เชิงบวกที่เป็นรูปธรรม ตอบโจทย์การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และแก้ปัญหาความยากจน ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล และขณะเดียวกันธนาคารยังสามารถทำ กำไรทางธุรกิจเชิงพาณิชย์หล่อเลี้ยงกิจการและสนับสนุนภารกิจเพื่อสังคมไปพร้อมกันด้วย

ด้านธิดา แก้วบุตตา ผู้ถือหุ้น และ ผู้อำนวยการฝ่านกลยุทธ์องค์กร SAWAD กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปลูกค้าสามารถนำรถจักรยานยนต์พร้อมเล่มทะเบียนรถมาติดต่อขอสินเชื่อด่วนได้ที่สาขาของเงินสดทันใจในเครือศรีสวัสดิ์ จำนวนกว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ และที่บูธให้บริการของเงินสดทันใจ ภายในธนาคารออมสิน 35 แห่งซึ่งเป็นสาขานำร่อง โดยบริษัทฯ จะรับจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ รวมถึงรับรีไฟแนนซ์
จากที่อื่นด้วยอัตราดอกเบี้ย 14.99% ตามเงื่อนไขของบริษัท

สำหรับ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ‘เงินสดทันใจ’ในเฟสถัดไป เตรียมขยายบริการเปิดรับจำนำทะเบียนรถยนต์ภายในระยะเวลา 2 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 14.99- 18% รวมถึงขยายจุดให้บริการเพิ่มเติมภายในสาขาธนาคารออมสินอีก 500 สาขาภายในไตรมาส 2 หรือเดือนพฤษภาคมและเพิ่มเป็น 800 สาขาในไตรมาส 4 คาดว่าภายในปี 2564 นี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ถึง 20,000 ล้านบาท และช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ผู้มีรายได้น้อยเป็นจำนวน 800,000-1,000,000 คน