ร้อนระอุ!! ศึก'สินเชื่อจำนำทะเบียน' เปิดดอกเบี้ย6ผู้ให้บริการ ใครต่ำสุด?
ตลาด"สินเชื่อจำนำทะเบียน"ร้อนระอุ ออมสิน ส่งเงินสดทันใจหั่นดอกเบี้ยต่ำ3เดือนแรก0.69% ด้านเมืองไทยแคปปิตอลเล็งจัดแคมเปญสู้หั่นดอกเบี้ยใกล้เคียงกันในช่วง3เดือน ส่วน เคทีซี พี่เบิ้ม ปรับเงื่อนไขยืดหยุ่นให้ ทุกอาชีพเข้าถึงเงินก้อนใหญ่
หลังจาก "ออมสิน" จับมือ "ศรีสวัสดิ์คอร์ปอเรชั่น (SAWAD)" ส่ง "เงินสดทันใจ" เข้ามารุกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนดอกเบี้ยต่ำ ประเดิมตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ ที่บูธเงินสดทันใจ ในสาขาธนาคารออมสิน 1 เม.ย.นี้
ชูโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำสุดในตลาด ช่วง 3 เดือนแรก ที่14.99 % ต่อปี หรือ 0.69 % ต่อเดือน และอีก 2 เดือนข้างหน้าจะขยายสู่บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ คิดดอกเบี้ยต่ำกว่า 18% ต่อปี
ทั้งนี้จากการรวบรวมอัตรา"ดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียน"ผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 6 ราย ดังนี้
1.เงินสดทันใจ
รถจักรยานยนต์ : ดอกเบี้ย ช่วง 3 เดือนแรก ที่ 14.99 % ต่อปี หรือ 0.69 % ต่อเดือน
รถยนต์ : ดอกเบี้ยต่ำกว่า 18% ต่อปี
2.เมืองไทย แคปปิตอล
รถจักรยานยนต์ : ดอกเบี้ยเฉลี่ย 17.98% ต่อปี เตรียมลดดอกเบี้ยช่วง 3 เดือนนี้เหลือ 15% ต่อปี
รถยนต์ : ดอกเบี้ยเฉลี่ย 17.78% ต่อปี
3.เคทีซี พี่เบิ้ม
รถจักรยานยนต์ : ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 24% หรือ 1.32% ต่อเดือน
รถยนต์ : ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 21% ต่อปี หรือ 0.98% ต่อเดือน
4.เงินติดล้อ
รถจักรยานยนต์ : ดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 17.6% ต่อปี
รถยนต์ : ดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 17.6% ต่อปี
5.คาร์ ฟอร์ แคช
รถจักรยานยนต์ : ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 1.85% ต่อเดือน หรือ22.2% ต่อปี
รถยนต์ : ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 3.18% ต่อปี
6.สมหวัง เงินสั่งได้
รถจักรยานยนต์ : ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.49% ต่อเดือน
รถยนต์ : ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.49% ต่อเดือน
“ออมสิน” ปรับโครงสร้ากดดบ.ลง8-10%
“เงินสดทันใจ” ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ20,000 ล้านบาทในปีนี้ หรือเข้าถึงลูกค้าได้ 800,000 คน ถึง1 ล้านคน ทั้งลูกค้าใหม่และรีไฟแนนซ์
แต่เป้าหมายในระยะยาว “วิทัย รัตนากร “ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ย้ำชัดมาตลอดว่า เราต้องการปรับโครงสร้างดอกเบี้ยในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เป็นอยู่ให้ลดลงอีก 8-10% เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ลูกค้าฐานรากเข้าถึงได้ สร้างความเป็นธรรม มองว่า ในระยะยาว ดอกเบี้ยจำนำทะเบียนน่าจะอยู่ที่16-18%ต่อปี
อย่างไรก็ตามในช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด -19 ปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและสร้างความเป็นธรรม ให้กับผู้บริโภค เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับเกณฑ์ลดเพดานดอกเบี้ย มาอยู่ที่ไม่เกิน24%หรือลดลงจากเดิมอยู่ที่ไม่เกิน 28% โดยปัจจุบันตลาดคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 18-20%
เปิดศึก !! ลดดอกเบี้ย-ปรับเงื่อนไข รักษาฐานลูกค้า
แล้วเมื่อแบงก์รัฐรายแรกโดดเข้าแข่งขันในตลาดนี้ แน่นอนว่า ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต้องเริ่มขยับตัวเช่นกัน ซึ่งการแข่งขันในตลาดนี้ปกติสูงอยู่แล้ว แน่นอนว่าหลังจากนี้จะยิ่งระอุมากขึ้นแน่นอน
ล่าสุด “พี่ใหญ่” บริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC “ชูชาติ เพร็ชอำไพ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MTC บอกว่า ตอนนี้เราเตรียมออกแคมเปญลดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยายนต์ ให้ใกล้เคียงผู้เล่นรายใหม่ คาดว่าจะคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 15 %ต่อปี ในระยะเวลา 3 เดือนเช่นกัน เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้
แม้ว่ากลุ่มลูกค้าใหม่อาจได้รับผลกระทบในระยะสั้นบ้างหลังจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามา แต่ไม่น่าจะกระทบต่อตลาดมากนัก เพราะจริงๆ แล้วในตลาดนี้ แข่งขันจัดโปรโมชั่นดอกเบี้ยเป็นช่วงๆ ให้กับลูกค้าเป็นระยะๆ อยู่แล้ว ซึ่งดอกเบี้ยของเรายังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ขณะที่ลูกค้าเดิม ซึ่งมีภาระอยู่แล้วหากจะไปรีไฟแนนซ์ที่อื่นต้องหาเงินมาปิดก่อน ซึ่งไม่น่ามีผลกระทบ
“ในแง่ของการทำธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าของตัวเอง และพยายามหาฐานลูกค้าใหม่เข้ามาเสริมไม่เอาเปรียบลูกค้า ปัจจัยเรื่องดอกเบี้ย เป็นเพียงปัจจัยส่วนหนึ่งเท่านั้นต่อการตัดสินใจของลูกค้าส่วนนี้ ซึ่งมักอาศัยความคุ้นเคยกันมากกว่า”
สำหรับในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่และจำนวนลูกค้าเติบโต 20% จากปีก่อน มาจากตลาดเดิมที่ลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่เข้ามา และการขยายสาขาเพื่อขึ้นเพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมมากขึ้น คาดว่าจะขยายสาขาในปีนนี้เพิ่มอีก 600 สาขา จากปัจจุบันมี 5,000 สาขาทั่วประเทศ พร้อมด้วยบริการและการดูแลลูกค้าทมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ยังเป็นจุดแข็งของเรา
ขณะที่ฝั่ง “น้องเล็ก” อย่าง “เคทีซี พี่เบิ้ม” ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดเมื่อปลายปีก่อนและรุกสร้างแบรนด์จนเริ่มติดหูกันแล้วนั้น “เรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี” ผู้อำนวยการ–ธุรกิจสินเชื่อ เคทีซี พี่เบิ้ม บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือKTC บอกว่า การเข้ามาแข่งขันของผู้เล่นรายใหม่ มองว่า การเข้ามาทำตลาดนั้นเจาะฐานลูกค้าคนละกลุ่มเป้าหมายกับเรา ขณะที่เรามีบิซิเนสโมเดลที่แตกต่างคู่แข่งในตลาดชัดเจน คือ มุ่งการให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์เป็นหลักให้วงเงินก้อนใหญ่จริง ปัจจุบันเฉลี่ย 200,000 -300,000 บาท ยืนเอกสารไม่ยุ่งยาก และอนุมัติไวภายใน 2 ชั่วโมง และบริการดูแลค้าครบวงจร เป็นจุดแข็งที่เรายังสามารถแข่งขันได้
เนื่องจากการสำรวจความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรานั้น พบว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้สนใจปัจจัยดอกเบี้ยเป็นหลัก คือ มองว่าดอกเบี้ยที่ 18-20% ต่อปี เมื่อคิดเป็นดอกเบี้ยต่อเดือนแล้วดอกเบี้ยแทยไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่อยู่ว่า เขามีโอกาสได้วงเงินจริงที่นำไปใช้ได้ทันทีเลยหรือไม่มากกว่า
ดังนั้นในช่วงนี้ เราจะมุ่งเน้นการปรับเงื่อนไขการอนุมัติให้มีความยืดหยุ่นให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น เช่น ปรับกลุ่มอาชีพให้หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่ม จากก่อนหน้านี้ได้ปรับเรื่องอายุรถและยี่ห้อรถไปแล้ว รวมถึงมุ่งเน้นการให้วงเงินใหญ่ตามที่ลูกค้าต้องการสามารถนำไปใช้ได้จริงและมีบริการเข้าไปดูแลลูกค้าโดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลังจากนี้ เราต้องติดตามว่า ประเด็นดอกเบี้ยที่ลดลงจะมีผลต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรามากน้อยแค่ไหนต่อไป เพื่อพิจารณาปรับกลยุทธ์การทำตลาดต่อไป ขณะที่ปัจจุบันเราพิจารณาดอกเบี้ยไปตามความเสี่ยงถ้าความเสี่ยงต่ำดออกเบี้ยถูกกว่าคนที่มีความเสี่ยงสูงกว่า
โดยในปีนี้ยังคงเป้าหมายปล่อยสินเชื่อจำนำรถยนต์รถที่ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 180 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังเป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์สัดส่วนมากกว่า 90%
สุดท้ายแล้ว เมื่อเกิดการแข่งขันในตลาด โดยเฉพาะ “การแข่งขันดอกเบี้ย” ผู้บริโภคได้ประโยชน์สูงสุด ไม่เกิดการเอาเปรียบ แต่ผู้บริโภคเองก็ต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการด้วย ไม่ว่าจะเป็น บริการและสิทธิประโยชน์อื่นๆ รวมถึงเงื่อนไขในส่วนอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมต่างๆ มาเปรียบเทียบด้วย