‘นูทานิคซ์’ ยก 'คลาวด์' คัมภีร์สู่ความสำเร็จ 'โลกฟินเทค' 

‘นูทานิคซ์’ ยก 'คลาวด์' คัมภีร์สู่ความสำเร็จ 'โลกฟินเทค' 

นูทานิคซ์ ชี้ "คลาวด์" บทบาทสำคัญปฏิรูปธุรกิจภาคการเงินสู่โลกฟินเทคอย่างสมบูรณ์แบบ เชื่อปีนี้จะได้เห็นการเร่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเกิดใหม่ และเพิ่มผลิตภัณฑ์ดิจิทัล

"ปีนี้นูทานิคซ์คาดว่า จะได้เห็นการเร่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเกิดใหม่ต่างๆ เพื่อเปลี่ยนกระบวนการทำงานแบบแมนนวลให้เป็นอัตโนมัติ และเพิ่มผลิตภัณฑ์ดิจิทัล หัวใจการทำงานรูปแบบใหม่ จะอยู่ในรูปแบบของโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่สร้างจากไฮบริดและมัลติคลาวด์ มีการนำไฮบริดคลาวด์มาใช้เพิ่มมากขึ้น" 

ทวิพงศ์ กล่าวต่อว่า  ขณะที่ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นความต้องการ ที่เจาะจงของบริการด้านการเงิน และเหมาะอย่างยิ่งกับสภาพแวดล้อมไฮบริดและมัลติคลาวด์ กล่าวคือ พับลิคคลาวด์มอบความยืดหยุ่นและความคล่องตัว ในขณะที่ไพรเวทคลาวด์มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและมอบความสามารถในการควบคุมได้ในระดับสูง

ชี้เอเชียเร่งปฏิรูปบริการการเงิน

ทั้งนี้ นับเป็นเรื่องดีที่ภาครัฐและเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่างต้องการส่งเสริมในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ การปฏิรูปบริการด้านการเงินเป็นสิ่งที่ได้รับการบรรจุอยู่ในนโยบายของประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินพร้อมกับระบบนิเวศที่สมบูรณ์ในหลายด้าน 

เช่น สนับสนุนการสร้างนวัตกรรมทางการเงินผ่านกลไกการทดสอบ และพัฒนานวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีใหม่มาสนับสนุนการให้บริการทางการเงิน (Regulatory Sandbox) เอื้อให้ผู้ให้บริการทางการเงิน ทั้งสถาบันการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันการเงินพัฒนาบริการด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และทดลองให้บริการได้ เริ่มจากทดสอบให้บริการในขอบเขตจำกัด ก่อนให้บริการในวงกว้าง

ทั้งได้ดำเนินโครงการนำร่อง 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการอินทนนท์ ที่ทดสอบใช้บล็อกเชนโอนเงินระหว่างสถาบันการเงิน และ 2. โครงการ DLT Scripless Bond นำบล็อกเชนมาทดสอบใช้จำหน่ายพันธบัตรเพื่อช่วยลดความซับซ้อน ลดขั้นตอน

คลาวด์ คือ กุญแจสู่ความสำเร็จ

เขากล่าวว่า การจะประสบความสำเร็จในโลกการเงินยุคนี้ บริษัทที่ให้บริการด้านการเงินต้องคล่องตัว และมีแนวคิดเปิดกว้าง เท่าทันเทคโนโลยีที่ลูกค้าใช้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่การสร้างโมเดลธุรกิจและเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่สร้างอย่างเจาะจงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย และสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้ แน่นอนว่าไฮบริดและมัลติคลาวด์เป็นกุญแจสำคัญ 

ขณะที่ รายงานล่าสุดของนูทานิคซ์ เกี่ยวกับดัชนีการใช้คลาวด์ขององค์กรผู้ให้บริการด้านการเงิน แสดงให้เห็นว่า โควิด-19 ทำให้บริษัทส่วนใหญ่มองไอทีในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ในส่วนนี้มากกว่าครึ่งกำลังลงทุนกับบริการไฮบริดคลาวด์เพิ่ม และใช้โครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จ (HCI) ที่ช่วยให้สามารถใช้งานคลาวด์และปรับขยายการใช้งานได้ง่ายขึ้น

“ไม่ว่าโควิด-19 จะเป็นไปทิศทางใด การยกระดับธุรกิจบริการการเงิน จะยังดำเนินไปได้ด้วยดี การให้ความสนใจเทคโนโลยีที่เพิ่งค้นพบชี้ถึงความต้องการนวัตกรรมที่มีแนวโน้มขยายการใช้งานไปไกลกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน และเพื่อให้มั่นใจว่าแรงกระเพื่อมนี้จะมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ไฮบริดและมัลติคลาวด์ควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่บรรจุอยู่ในกลยุทธ์ด้านไอที” ทวิพงศ์ ทิ้งท้าย