รัฐบาล เล็งออก ‘คนละครึ่ง’ กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจบ ‘เราชนะ’
รัฐบาลเล็งใช้ “คนละครึ่ง” กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ พร้อมออกมาตรการใหม่กระตุ้นการใช้จ่ายกลุ่มคนรวย ยืนยันไม่มีการเยียวยาโควิด" ล็อต 3 เหตุไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ โดยมาตรการจะออกหลังสิ้นสุดโครงการ "เราชนะ" ในเดือนพ.ค.นี้
คืบหน้ามาตรการเยียวยาโควิด-19 ซึ่งทั้งมาตรการ "เราชนะ" และ "ม33เรารักกัน" กำลังจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ขณะที่มาตรการ "คนละครึ่ง เฟส2" ก็จบไปแล้วเมื่อสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศไทยกำลังมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่หลายฝ่ายจับตาดูว่า รัฐบาลจะออกมาตรการเยียวยาโควิดระลอกใหม่ออกมาอีกหรือไม่นั้น
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า วานนี้(16เม.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและเตรียมมาตรการในการดูแลเศรษฐกิจหลังโควิด-19ระบาดระลอกใหม่ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ เป็นต้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า เนื่องจาก รัฐบาลไม่ได้ประกาศมาตรการ "ล็อกดาวน์" ฉะนั้น มาตรการในการดูแลเศรษฐกิจจึงไม่ได้ออกมาในลักษณะการเยียวยาเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยระยะเวลาที่จะนำมาตรการมาใช้นั้น จะไม่ใช่ในระยะนี้ เนื่องจาก รัฐบาลยังคงมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านโครงการเราชนะ ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการในปลายเดือนพ.ค.นี้ ดังนั้น มาตรการใหม่ที่จะออกมาน่าจะเป็นช่วงหลังจบโครงการดังกล่าวแล้ว
สำหรับตัวมาตรการนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า ที่น่าจะออกมาใหม่จะเป็นโครงการที่เคยนำมาใช้แล้วในระยะที่ผ่านมา ซึ่งก็คือ โครงการ "คนละครึ่ง" โดยโครงการนี้ถือเป็นที่ยอมรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยนอกจากรัฐบาลจะใส่เงินเข้าไปในระบบส่วนหนึ่งแล้ว ยังมีเม็ดเงินที่นำออกมาใช้ในฝั่งของประชาชนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังจะมีโครงการใหม่ที่จะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้สูงอีกด้วย
ส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการนั้น จะนำมาจากเงินกู้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในส่วนที่ยังเหลืออยู่สำหรับใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกราว 2.4 แสนล้านบาท โดยจะโยกงบส่วนนี้มาใช้ แต่จะไม่นำมาใช้ทั้งหมด เพราะเผื่อไว้สำหรับความต้องการใช้เงินของหน่วยงานอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการ "เราชนะ" อัพเดทถึง ณ วันที่ 16 เมษายน 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 198,672 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึง ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ
ส่วนโครงการคนละครึ่ง ตัวเลขอัพเดท ณ วันที่ 25 มีนาคม 2564 พบว่า มียอดการใช้จ่ายสะสม 100,042 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 51,214 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 48,828 ล้านบาท โดยมีผู้ใช้สิทธิจำนวน 14,793,502 คน เป็นการใช้จ่าย 3,000 บาทขึ้นไป จำนวน 12,959,425 คน และใช้จ่ายครบ 3,500 บาท จำนวน 6,624,037 คน