วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (21 เม.ย.64)

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับลด หลังความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคเอเชียได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย หลังอินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 2 แสนรายต่อวันนับตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. 64 เป็นต้นมา โดยล่าสุด อินเดียได้ประกาศล็อกดาวน์กรุงนิวเดลีเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 64 เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

+ บริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย (NOC) ประกาศภาวะสุดวิสัยด้านการส่งออกน้ำมัน (force majeure) ที่ท่าเรือ Hariga หลังมีปัญหาด้านด้านงบประมาณกับธนาคารกลางของประเทศ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศลิเบียประมาณ 180,000 บาร์เรลต่อวัน

- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 เม.ย. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 492.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวลดลง 3.0 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคได้รับแรงสนับสนุนจากการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในจีน อย่างไรก็ตามความต้องการใช้น้ำมันเบนซินยังคงถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในอินเดีย และญี่ปุ่น

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย แม้ว่าความต้องการใช้ในประเทศศรีลังกา และแอฟริกาใต้ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น