'พลังประชารัฐ' - แนวร่วม แตกยับ ดับฝัน 'จักรทิพย์' ผู้ว่าฯกทม.

การเมืองระดับชาติอยู่ในช่วงพักยก ปิดสมัยประชุมสภา แต่การเมืองท้องถิ่นยังต้องเดินหน้าต่อ เพราะยังเหลือการเลือกตั้งอีก 3 ระดับ คือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต) ผู้ว่าฯกทม. และเมืองพัทยา โดยมีไทม์ไลน์ภายในปีนี้ 

ที่ถูกจับจ้องคือเดิมพันสนามผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองเริ่มวางตัวผู้สมัคร

เวลานี้พรรคใหญ่ที่ดูเหมือนจะพร้อมลงสนามที่สุด เพราะลงตัวทั้งผู้สมัคร ทีมงาน และปัจจัย คือพรรคพลังประชารัฐ ที่มีมติจากวอร์รูม “บ้านป่ารอยต่อ” สนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือ “บิ๊กแป๊ะ” อดีต ผบ.ตร.ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ เมืองหลวง ไม่ว่าจะลงอิสระ หรือในนามพรรค

 โดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำ "กลุ่ม 3 ช" บริหารจัดการทั้งหมด พร้อมด้วยประกาศิต "แพ้ไม่ได้"

 ปฏิเสธไม่ได้ว่า วงประชุมที่บ้านป่ารอยต่อครั้งนี้ ก่อให้เกิดความอึดอัดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐไม่น้อย เมื่อมีเฉพาะแกนนำรอบกาย “บิ๊กป้อม” อย่าง “กลุ่ม 3 ช” และ ส.ส.กทม.พลังประชารัฐเท่านั้น โดยไม่ปรากฎ “ทีมสามมิตร” ทั้งที่ อนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคแห่งกลุ่มสามมิตร ควรมีบทบาทรับรู้ความเคลื่อนไหวของพรรค แต่กลับไม่ได้รับเชิญไปร่วมภารกิจนี้ 

ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ ความต้องการชัยชนะในครั้งนี้ ทั้ง พลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส และ“บิ๊กแป๊ะ” จักรทิพย์ จึงทำทุกวิถีทาง โดยไม่ได้มองเกมการเมืองทั้งกระดาน

โดยเฉพาะการใช้องคาพยพ ส.ส.กทม.ของพรรคมาสนับสนุน ก็ย่อมต้องเอาทีมและหัวคะแนนมาด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ส.ส.ก็ต้องพึ่งพา ส.ก. และแน่นอนว่า ส.ส.กทม.แต่ละเขตย่อมต้องการส่งคนของตัวเองลงสมัคร ส.ก. 

แนวทางนี้อาจไม่เป็นไปตามความคาดหวังของ “บิ๊กแป๊ะ” “บิ๊กป้อม” และ “ร.อ.ธรรมนัส”

โดยเฉพาะตัวอย่างบางเขต ที่ “ร.อ.ธรรมนัส” มีการต่อสายขอการสนับสนุนจาก “ชัช เตาปูน” หรือ “ชัชวาลย์ คงอุดม” หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่ง “ชัช เตาปูน” มีเขตอิทธิพลในพื้นที่ ดุสิต บางซื่อ 

จุดนี้กำลังทำให้เกิดปัญหาเนื่องจาก “บิ๊กแป๊ะ” ให้เป็นสิทธิของ “ชัช เตาปูน” ในการส่ง ส.ก.ของตัวเองลง ขณะที่ ส.ส.กทม.ของพลังประชารัฐในเขตนี้ก็ต้องการส่งคนของตัวเองลงเช่นกัน ขณะที่ส.ส.กทม.ส่วนหนึ่ง ไม่พอใจบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส และไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับยุทธศาสตร์ และแนวทางของ ร.อ.ธรรมนัส ทั้งหมด ปัญหาจึงทำท่าจะบานปลาย

นอกจากนี้ การมอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส ประสานกับพรรคการเมืองอื่น อย่างไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 

รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ ให้มาสนับสนุน “บิ๊กแป๊ะ” ด้วย ก็ไม่ง่าย เพราะทั้งสองพรรคก็ต้องการสร้างฐานะเสียงของตัวเอง 

โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ การจะล็อบบี้เพื่อไม่ให้ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ท่าจะยาก เพราะล่าสุด “องอาจ คล้ามไพบูลย์” ประธานส.ส.ประชาธิปัตย์ และแกนนำสำคัญของ กทม.ก็ประกาศแล้วว่า มีปัจจัยที่พรรคจะต้องส่งคนลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. แม้ประชาธิปัตย์ไม่หวังชนะ แต่ต้องการสร้างฐานเสียง ส.ก.และเพื่อการเลือกตั้ง ส.ส.ในอนาคต

ขณะที่ “จักรทิพย์” ยังต้องการเสียงจากคนใน 50 เขตของ กทม. อีกทั้งต้องล็อบบี้ไม่ให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ลงแข่ง ซึ่งอาจต้องมีออปชั่นที่น่าสนใจพอสมควร อาทิ ยกเก้าอี้รองผู้ว่าฯกทม.ให้ “พงศกร ขวัญเมือง” ลูกชายอัศวิน

ส่วนฐานเสียง “88 สน.” ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ คิดไว้แต่แรกว่าไม่ยากนั้น แต่วันนี้ไม่ง่ายเสียแล้ว เมื่อเจ้าตัวเริ่มมีปัญหาขัดแย้งกับ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ขณะที่คู่กรณีอย่าง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็ได้กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีตำแหน่งเทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร. การที่คาดหวังจะได้เสียงจากตำรวจนครบาลจึงไม่ง่าย เพราะทั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่เผาผี พล.ต.อ.จักรทิพย์ แน่นอน

ฉะนั้นที่ “จักรทิพย์” หวังฐานเสียงจากกลุ่มต่างๆ จึงอาจพลาดเป้า และต้องนับหนึ่งใหม่ด้วยตัวเองทั้งหมด ขณะที่คู่แข่งสำคัญอย่าง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่มีเพื่อไทยหนุนทั้งพรรค และยังมีคะแนนส่วนตัวเป็นต้นทุน รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 7-8 แสน หาเพิ่มอีกไม่เท่าไหร่ก็มีโอกาสคว้าเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.