โทร '1668' หาเตียงโควิด ระบบเป็นอย่างไร มี 'เบอร์ฉุกเฉิน' ไหน ควรรู้อีกบ้าง?
โทร "1668" หาเตียงโควิด ระบบเป็นอย่างไร มี "เบอร์ฉุกเฉิน" ไหน ควรรู้อีกบ้าง? พร้อมเปิดขั้นตอนปฏิบัติตัวเมื่อทราบว่าติดเชื้อโควิด-19
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ หลายคนมองว่าค่อนข้างที่จะรุนแรงกว่าครั้งก่อน มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากและการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงลักษณะอาการและอัตราการเสียชีวิตที่มีความรุนแรงมากขึ้น
โดยจากรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมควบคุมโรค ล่าสุด วันที่ 24 เมษายน 2564 พบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ทะลุสูงถึง 2,839 ราย นับเป็น "ตัวเลขรายวัน" ที่สูงที่สุดเท่าที่มีการระบาดในประเทศไทยมา ทำให้จนถึงขณะนี้ มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้ว 53,022 ราย อีกทั้งยังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มถึง 8 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 129 ราย
ในจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนั้น ทำให้เกิดประเด็นปัญหาที่มีการแชร์ผ่านทางโซเชียลจำนวนมาก นั่นคือ จำนวนเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ไม่เพียงพอ การประสานงานติดต่อเพื่อรอทางโรงพยาบาลมารับก็ไม่เป็นไปได้รวดเร็ว และทำให้เกิดการแพร่เชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนในครอบครัวเดียวกัน
ทั้งนี้ปัจจุบันกรมการแพทย์ได้เปิดบริการสายด่วนเฉพาะกิจ 1668 ขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในการหาเตียง ระหว่างเวลา 08.00 – 22.00 น. ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับสายด่วน 1669 ของกรุงเทพมหานคร และสายด่วน 1330 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่รับสาย 24 ชั่วโมง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่ได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล
ซึ่งทีมงานสายด่วนเฉพาะกิจ 1668 เป็นเจ้าหน้าที่จิตอาสา ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ ของกรมการแพทย์ ทั้งนี้หากมีปัญหาเรื่องการโทรอาจจะใช้ LINE @sabaideebot ในการเข้าไปลงทะเบียน เพื่อแจ้งรายละเอียดของผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ระบบหาเตียงส่วนกลางได้ด้วย
โดย หลักการทำงานของทีมงานสายด่วน 1668 ทั้งในและนอกสถานที่ แบ่งเป็น 4 ทีมหลัก คือ
1.ทีมรับสาย Hotline 1668 จากผู้ป่วยโควิด-19
- สอบถามข้อมูลรายละเอียดของผู้ป่วย
- ให้คำปรึกษาแนะนำการปฏิบัติตัวเบื้องต้นในการดูแลตนเองและป้องกันการแพร่กระจายของโรคค
2.ทีมข้อมูล
- รวบรวมข้อมูลจากทีมงานสายด่วนและทีมประสานงาน
- วิเคราะห์ข้อมูล จัดทำฐานข้อมูล สรุปข้อมูลรายวัน
3.ทีมแพทย์
- มีทีมแพทย์ประเมินอาการระดับความรุนแรงของผู้ป่วย แบ่งเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของโรค
4.ทีมประสานงานและประสานงาน
- หน้าที่ประสานการขอเตียงจากโรงพยาบาลเป้าหมายหรือศูนย์ประสานงานกลุ่มโรงพยาบาล ผ่านศูนย์ส่งต่อโรงพยาบาลราชวิถี
- กรณีเป็นผู้ติดเชื้อในความรับผิดชอบของกรมการแพทย์ และประสานงานผ่านศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร
- กรณีเป็นผู้ติดเชื้อในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลนอกสังกัดกรมการแพทย์ ในกรณีที่เป็นผู้ติดเชื้อจาก Lab ที่ไม่มีสถานพยาบาลรองรับ กรมการแพทย์ช่วยเหลือในรับเข้า Hospotel - โทรเยี่ยมติดตามอาการของผู้ป่วย
นอกจากนี้ยังมี "เบอร์ฉุกเฉิน" อื่นๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ดังน้ี
- 1422 (กรมควบคุมโรค) : สอบถามข้อมูลโรคโควิด-19 และแจ้งผู้ที่มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์สงสัยป่วยโรคโควิด-19 (For foreigner call 0-9684-7820-9) หรือผ่านช่องทางแชทโดยการสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่างนี้
- 1111 (สำนักนายกรัฐมนตรี) : รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ศูนย์บริการภาครัฐเพื่อประชาชน
- 1669 (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ) : เจ็บป่วยหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน
- 1323 (กรมสุขภาพจิต) : ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต
- 1646 (ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ)) : ประสานความช่วยเหลือด้านการแพทย์ในภาวะฉุกเฉินทุกประเภท และเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางด้านการแพทย์ประเภท Hotline สายด่วนกู้ใจให้คำปรึกษา ปัญหา คลายเครียด บริการตลอด 24 ชั่วโมง
- 0-2193-7057 (ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ)
- สายด่วนกองควบคุมโรค สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร 094 -386-0051 ,082-001-6373 (ให้บริการเวลา 08.00 - 16.00 น.) หรือ 0-2245-4964 (ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง) : สอบถามอาการป่วยโควิด-19
- 094-386-0051 (ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) กทม.) : สำหรับแจ้งข้อมูลผู้ที่คาดว่าได้สัมผัสกับผู้ป่วย หรือผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่ กทม.
- 0-2203-2393 และ 0-2203-2396 (สายด่วนเว็บไซต์ BKK COVID-19) เปิดให้บริการเวลา 08.00-20.00 น.
- 1506 (สำนักงานประกันสังคม) : ตรวจสอบสิทธิประกันสังคม การรักษาพยาบาล และเงินชดเชยการว่างงาน
ทั้งนี้ในส่วนของการ ขั้นตอนการปฏิบัติตัว เมื่อทราบผลว่าติดโควิด-19 มีทั้งหมด 8 ขั้นตอน ดังนี้
1. เตรียมเอกสารที่ต้องใช้
- บัตรประชาชน
- ผลตรวจโควิด-19
2. แจ้งเบอร์โทรศัพท์ของตนกับหน่วยงานที่รับเรื่องเพื่อเข้ารับการรักษา
- โทร 1330 สปสช.
- โทร 1669 ศูนย์เอราวัณ กทม.
- โทร 1668 กรมการแพทย์
3. งดออกจากที่พัก หรือเดินทางข้ามจังหวัด หากฝ่าฝืนถือว่ามีความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34
4. งดใกล้ชิดครอบครัว และผู้อื่น
5. แยกห้องน้ำ (ถ้าทำได้)
6.ในกรณีที่มีไข้ ให้รับประทานยาพารา และเช็ดตัวเพื่อลดไข้
7. สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
8. แยกของใช้ส่วนตัว
อ้างอิงข้อมูล : กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข