'ประยุทธ์'ร่วมเวทีไมโครซอฟท์ซัมมิท ดันไทยเป็นฮับดาต้าเซนเตอร์ภูมิภาค 

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวานนี้ (6 พ.ค.) ณ สำนักงานใหญ่ Microsoft ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประเทศสิงคโปร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กล่าวปาฐกถาผ่านระบบวีดิทัศน์ในพิธีเปิดการประชุม Microsoft APAC Public Sector Summit ซึ่งจัดในรูปแบบออนไลน์ ภายใต้หัวข้อ Empowering Nations for a Digital Society

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดความท้าทาย แต่ได้สร้างโอกาสในหลายมิติ อาทิ การปรับตัวเข้ากับวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ มาตรฐานสุขอนามัยรูปแบบใหม่ และการเกิดโมเดลธุรกิจใหม่ การวาดภาพยุทธศาสตร์การเติบโตของโลกหลังวิกฤตโควิด-19 ถือว่าเป็นความท้าทายมาก ในเรื่องดิจิทัลถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกในฐานะที่เป็นปัจจัยสนับสนุนสำหรับทุกภาคส่วน เช่น เทคโนโลยี Internet of Things (IOT) และระบบอัตโนมัติทั้งหลายที่จำเป็นต่อยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งยังช่วยสนับสนุนการค้า การบริการ และการท่องเที่ยว ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ 

รัฐบาลไทยกำลังวางแผนการพัฒนาทั้งในระยะเร่งด่วนและในระยะยาว และกำหนดให้การพัฒนาดิจิทัลเป็นวาระแห่งชาติด้านรวมทั้งได้มีการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้พร้อมสำหรับอนาคต ได้แก่ การระบุตัวตนแบบดิจิทัล เอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และการชำระเงินแบบดิจิทัล เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือเส้นทางที่ไทยจะดำเนินต่อไป และประเทศไทยต้องการมีบทบาทในการเป็นศูนย์กลางภูมิภาคอินโดจีนในเรื่องของดาต้าเซ็นเตอร์ และบริการคลาวด์ และมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรนานาประเทศเพื่อให้เกิดความสำเร็จ

“นายกฯกล่าวว่าความสำเร็จของเศรษฐกิจดิจิทัล จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รัฐบาลตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคสำหรับบริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวโครงการริเริ่มนำร่องต่าง ๆ เพื่อดึงดูดบริษัทเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความสามารถสูง การพัฒนานโยบายเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกิดระบบนิเวศด้านนวัตกรรม ตลอดจนปรับปรุงความง่ายในการประกอบธุรกิจของไทยด้วย”นายอนุชา กล่าว

สำหรับการประชุม Microsoft APAC Public Sector Summit จัดระหว่างวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2564 เพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทดิจิทัลและฐานข้อมูลในการช่วยฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ สนับสนุนการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษา และภาคธุรกิจพลังงาน ในการประชุมมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทไมโครซอฟต์ร่วมกล่าวปาฐกถา พร้อมมีผู้แทนจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจกว่า 20 คน ร่วมอภิปรายในหัวข้อต่างๆ อาทิ ความมั่นคงทางไซเบอร์ และSmart City เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 5 พันคน จากประเทศเป้าหมาย ซึ่งได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม