เจ้าหนี้หนุน 'การบินไทย' คืนรัฐวิสาหกิจ เอื้อแผนฟื้นฟูกิจการ 'ธุรกิจ' ไปรอด

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 12 พ.ค.2564 ในรูปแบบการประชุมออนไลน์ เพื่อให้เจ้าหนี้การบินไทยลงมติแผนฟื้นฟูกิจการ

แหล่งข่าวที่ปรึกษาผู้ทำแผนฟื้นฟูการบินไทย เปิดเผย 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า เจ้าหนี้ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการกลับไปเป็นรัฐวิสหกิจ ประเภทที่ 3 หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นโดยทางอ้อมมากกว่า 50% เพราะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย โดยเฉพาะในเชิงการทำธุรกิจการบินและไม่ใช่การบินหลังจากนี้ไป เพื่อให้การบินไทยยังคงได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ

ข้อดีของการกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจประเภทที่ 3 มีอีกหลายส่วน ได้แก่ การบินไทยไม่ต้องอยู่ภายใต้เกณฑ์การสรรหาผู้บริหาร ไม่ผูกพันธ์ตามมาตรา 60-65 พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ว่าด้วยระเบียบสหภาพ จึงทำให้การดำเนินธุรกิจคล่องตัว ที่สำคัญการเป็นรัฐวิสหกิจจะทำให้กระทรวงการคลังค้ำประกันและให้กู้ได้ นั่นหมายถึงสภาพคล่องทางการเงินต่อบริษัทและเจ้าหนี้

นอกจากนี้ การบินไทยจะได้สิทธิในสัญญาที่เข้าข่ายลักษณะ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือพีพีพีกลับคืนมา ได้แก่ สัญญากับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ว่าด้วยโครงสร้างพื้นฐานบริการสาธารณะ หรือเคาน์เตอร์สนามบิน เป็นประโยชน์กับงานสนับสนุน นั่นคือการบินไทยจะได้สิทธิทางธุรกิจ สิทธิ์พื้นที่ของ ทอท.ไม่ต้องประมูล

“ในส่วนนี้แม้จะถูกยกเลิกไปแล้วก็สามารถเข้าใหม่ได้” แหล่งข่าวระบุ

ส่วนข้อเสียของการกลับไปเป็นรัฐวิสหกิจ ได้แก่ การไม่รู้ว่ารัฐบาลจะต้องใส่เงินอีกกี่ครั้งหรืออีกเท่าไหร่ เพราะไม่มีใครการันตีว่าแผนฟื้นฟูกิจการครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการบินไทยมีปัญหาการขาดทุนไปแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาขาดทุนหลังการเข้าช่วยเหลือจากทางการในครั้งนี้ หากเป็นไปตามคำแนะนำของที่ปรึกษาและการบริหารโดยผู้ทำแผนในกรณีที่เจ้าหนี้รับรอง เชื่อว่ามีโอกาสฟื้นตัวเร็ว

“ที่ผ่านมาผู้ทำแผนได้ทำงานคืบหน้าไปมาก ได้แก่ แผนการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ได้มีการลดต้นทุน โดยลดจำนวนพนักงานจากที่มี 2 หมื่นกว่า วันนี้เหลือ 14,000 คน หากไม่มีโควิดมากระทบ เชื่อว่าผลการดำเนินงานธุรกิจสายการบินของการบินไทยจะไปได้ดีกว่านี้”

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวในฐานะหนึ่งในเจ้าหนี้บริษัทการบินไทยว่า ธนาคารพร้อมที่จะโหวตรับแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทยตามที่ผู้จัดทำแผนเสนอ โดยในแผนได้เสนอแนวทางการฟื้นฟู ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การใส่เงินเข้าไปของผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท และ อีก 2.5 หมื่นล้านบาท เป็นการใส่เงินในฝั่งของเจ้าหนี้ ซึ่งยังไม่ได้ระบุว่า เจ้าหนี้ที่จะใส่เงินเข้าไปนั้นจะเป็นใครบ้าง

“ในแผนฟื้นฟูกิจการนั้น เป็นการ Handle เจ้าหนี้รายเดิมว่า จะต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ลดหนี้ เป็นต้น เพราะถือเป็นเจ้าหนี้ปัจจุบัน แต่ในแผน ไม่ได้ระบุว่า ใครที่จะเป็นเจ้าหนี้รายใหม่ หรือ เจ้าหนี้รายเดิมจะใส่เงินเข้าไปเท่าไหร่ ซึ่งเข้าใจว่า เมื่อมีการโหวตรับแผนแล้วจะหารือประเด็นนี้”

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) กล่าวว่า สหกรณ์เจ้าหนี้หุ้นกู้การบินไทย 84 แห่ง สรุปร่วมกันที่จะส่งความเห็นไปให้การบินไทยภายในวันที่ 10-11 พ.ค.นี้ ก่อนประชุมเจ้าหนี้วันที่ 12 พ.ค.นี้ โดยสหกรณ์ 84 แห่งเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนให้การบินไทยบริหารกิจการต่อไปได้ แต่แผนการฟื้นฟูมีจุดที่ต้องแก้ไขบางจุด ซึ่งสหกรณ์ทั้ง 84 แห่ง ขอความชัดเจนเพิ่มโดยเฉพาะการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาล