จีนออกกฏใหม่คุม'เทสลา'ถ่ายโอนข้อมูลบนท้องถนน

เมื่อวันพุธ (12 พ.ค.)สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน เผยแพร่ร่างกฏระเบียบใหม่ที่ห้ามให้มีการถ่ายโอนข้อมูลการจราจรบนท้องถนนในจีน ที่ไม่ผ่านการอนุมัติและห้ามถ่ายโอนตำแหน่งที่ตั้งของยานพาหนะ ตลอดจนภาพและข้อมูลอื่นๆที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ในกล้องและเซนเซอร์ติดรถยนต์ ซึ่งข้อห้ามล่าสุดนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรถยนต์อัจฉริยะขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั้งคันของบริษัทเทสลา และค่ายรถยนต์อื่นๆ

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา “นายเทา หลิน” รองประธานฝ่ายกิจการภายนอกของเทสลาในจีน เปิดเผยว่า ในฐานะที่เทสลาเป็นบริษัทดำเนินกิจการในจีน บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของจีน โดยต้องรวบรวมข้อมูลจากรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในจีนเก็บไว้ในประเทศจีนอย่างปลอดภัย เพื่อบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวและความมั่นคงของจีนไปยังสหรัฐ

ข้อมูลจากรถยนต์อัจฉริยะของเทสลาในอนาคตทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถยนต์

เมื่อเดือนมี.ค.เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนได้ตรวจสอบด้านความปลอดภัยในรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา และแสดงความกังวลเกี่ยวกับกล้องภายในห้องผู้โดยสารและกล้องภายนอกอีก 8 ตัวที่ติดตั้งบนรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา รวมถึงการเชื่อมกับข้อมูลการติดต่อในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอาจมีผลทำให้ข้อมูลส่วนตัวและเกี่ยวกับความมั่นคงของจีนเล็ดลอดถูกส่งไปยังสหรัฐ

กฏระเบียบใหม่ของจีนเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีขึ้นหลังจากทางการจีนประกาศห้ามข้าราชการใช้รถเทสลาเพราะกังวลว่าจะถูกเก็บข้อมูลส่งไปสหรัฐ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลามีฟีเจอร์กล้องที่สามารถบันทึกภาพได้หลายทิศทาง ทำให้เกิดความกังวลด้านความมั่นคงของจีน ส่งผลให้กองทัพจีนจำกัดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในฝั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐและทหาร

บรรดาผู้สังเกตุการณ์ มีความเห็นว่า ร่างกฏระเบียบใหม่นี้จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐและจีนมากขึ้นและร่างกฏระเบียบนี้ ซึ่งยึดตามกฏหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ปี 2560 ไม่ได้บังคับใช้กับค่ายรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เท่านั้นแต่บังคับใช้กับหน่วยงานให้บริการแบ่งปันพาหนะในการเดินทางที่ใช้แอพพลิเคชั่นเคลื่อนที่ด้วย

ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนค่อนข้างตึงเครียดและล่าสุด เทสลา ตัดสินใจระงับแผนการซื้อที่ดินเพื่อขยายโรงงานในนครเซี่ยงไฮ้ที่บริษัทตั้งใจใช้เป็นศูนย์ส่งออกระดับโลกไว้ก่อน เนื่องจากมาตรการจัดเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากประเทศจีน นอกเหนือจากภาษีอื่นๆ ที่ยังคงบังคับใช้มาตั้งแต่สมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เทสลาจึงตัดสินใจที่จะจำกัดสัดส่วนการผลิตรถยนต์ในจีนให้น้อยลง

โรงงานในเซี่ยงไฮ้ของเทสลาได้รับการออกแบบให้ผลิตรถยนต์ได้ปีละ 500,000 คัน ขณะนี้กำลังผลิตรถยนต์ของเทสลาโมเดล 3 และโมเดลวายในอัตราปีละ 450,000 คัน

ขณะที่ยอดขายรถไฟฟ้าของบริษัทในตลาดจีนลดลง โดยสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (ซีพีซีเอ) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาในตลาดจีนอยู่ที่ 25,845 คันในเดือนเม.ย. ลดลง 27% จากระดับของเดือนก่อนหน้าที่ 35,478 คัน

ซีพีซีเอ ระบุว่า เทสลาส่งออกรถยนต์ 14,174 คันจากโรงงานในเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ไม่ได้เปิดเผยยอดการส่งออกของเทสลาในเดือนมี.ค.

อย่างไรก็ตาม เทสลามียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าลดลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือนสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ ที่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด ส่วนยอดส่งออกรถยนต์ทั่วโลกอยู่ที่ 184,800 คันในไตรมาส 1/2564 แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเป็นรายประเทศ

สื่อจีนรายงานว่า เกือบครึ่งของรถยนต์รุ่นใหม่ที่จำหน่ายในปี 2563 เป็นรถยนต์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยในจีน ผู้ขับรถยนต์สามารถเปิดหน้าต่าง ปรับอุณหภูมิภายในหรือสั่งการให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงหรือวิดีโอทำงานโดยใช้เทคโนโลยีจดจำเสียงผ่านทางอินเทอร์เน็ต

ขณะที่การติดตั้งกล้องและระบบเซนเซอร์ ระบบอัตโนมัติภายในรถยนต์เป็นแรงผลักดันหลักที่ทำให้รัฐบาลจีนออกร่างกฏระเบียบออกมาบริหารจัดการกับข้อมูลที่เข้มงวดมากขึ้น และที่ผ่านมา สื่อจีนก็เคยรายงานว่าเทสลา ที่ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในจีนต้องสงสัยว่าถ่ายโอนข้อมูลของจีนไปให้สหรัฐ