สธ. ออกประกาศเพิ่มสิทธิเบิกจ่าย 'ผู้ป่วยโควิด-19' มี'อาการแพ้วัคซีน'
สธ.ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยโรคโควิด- 19 ฉบับที่ 3 เพิ่มสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ฉบับที่ 1 และ 2 ให้ 'ผู้ป่วยโควิด-19' สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม
แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มี 'ผู้ป่วยรายใหม่' เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนชาวไทยผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการนำพาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤติการณ์การระบาดของโรค แต่ด้วยสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน อีกทั้งการ 'ฉีดวัคซีน' ป้องกันโรคโควิด- 19 ในครั้งนี้มีผู้เข้ารับบริการนับล้านราย จึงอาจจะมีบางรายที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน
- รพ.เอกชนให้บริการ 'ผู้ป่วยโควิด-19'อาการไม่พึงประสงค์ฟรี
กรม สบส.จึงดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศฯฉบับก่อนหน้า ออกเป็นประกาศฉบับที่ 3 กำหนดให้สถานพยาบาลเอกชน ให้บริการแก่บุคคลที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เฉกเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคโควิด- 19 โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย
นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า สำหรับ ประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด -19 (ฉบับที่ 3) นั้น ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เว้นแต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดจาก'อาการแพ้วัคซีน'หรือ 'อาการไม่พึงประสงค์' ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป
- สิทธิเบิกจ่ายแพ้วัคซีน โควิด-19 เข้ารับการรักษาฟรี
จะส่งผลให้ ประชาชนที่เกิด 'อาการไม่พึงประสงค์'จากการ 'ฉีดวัคซีนโควิด-19' จากสถานพยาบาลเอกชนที่รัฐกำหนด สามารถเข้ารับการดูแลรักษาได้ฟรีจาก 'สถานพยาบาลเอกชน' ซึ่งนอกจากการเพิ่ม 'สิทธิเบิกจ่าย'ในข้างต้นแล้ว ประกาศฯ ฉบับที่ 3 ยังได้เพิ่มสิทธิในการเบิกจ่ายค่าพาหนะขนส่งผู้ป่วยทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างราบรื่น และเหมาะสมกับสภาวะการณ์ในปัจจุบันด้วย