DDD ย้ำเป้ารายได้ปี 64 โต 25-30% เดินหน้าเจาะตลาดอาหารเสริม
DDD พบนักลงทุนประจำไตรมาส 1/2564 มั่นใจผลงานปี 64 โตตามเป้า 25-30% รับอานิสงส์คลายล็อกดาวน์-ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดอาหารเสริมเพิ่มขึ้น
นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทางออนไลน์ ประจำไตรมาส 1/2564 ว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างรุนแรงตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 ทำให้ประชาชนออกไปจับจ่ายนอกบ้านน้อยลง บริษัท จึงปรับกลยุทธ์เน้นการทำการตลาดและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังผลการดำเนินธุรกิจจะดีขึ้นต่อเนื่อง จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล และประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างทั่วถึง โดยบริษัท ยังคงตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโต 25-30% จากปีก่อน
ส่วนการตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์ ช่องทางการจัดจำหน่ายโมเดิร์นเทรดยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดย Snail White ยังครองยอดขายเป็นอันดับที่ 4 และ OXE’CURE ครองอันดับที่ 12 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากกิจกรรมส่งเสริมการขาย 5/5 ที่ผ่านมา ใน Lazada ฟิลิปปินส์ และในเดือน มิ.ย.นี้ บริษัทจะนำผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก Sparkle ไปวางจำหน่าย นำร่องด้วยผลิตภัณฑ์ยาสีฟันเป็นผลิตภัณฑ์แรก
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา และลาว ในอนาคตอันใกล้ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาตลาด
สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ จะเน้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารเสริม เพื่อตอบโจทย์กระแสการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีจากภายใน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หลังสินค้าใหม่หลายผลิตภัณฑ์ถูกเลื่อนการเปิดตัวจากไตรมาส 2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ส่วนความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกัญชง ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาร่วมกันกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องผิวพรรณของผู้บริโภคได้ตรงความต้องการ ในขณะที่การเจรจาซื้อกิจการ หรือ M&A เพื่อสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ยังอยู่ระหว่างการศึกษา โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้