'ไทยสร้างไทย' ไม่ซ้าย-ไม่ขวา 'พรรคสายกลาง' จุดยืนสู้ 'เลือกตั้ง'
"พรรคไทยสร้างไทยเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ที่มีอุดมการณ์ตรงกัน โดยเฉพาะในภาคอีสาน ความนิยมของคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่แพ้ใคร"
ฉากหน้าของพรรคไทยสร้างไทย ถูกขับเคลื่อนโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ที่เดินสายนำเสนอนโยบายผ่านสื่อ-ผ่านโซเชียลมีเดีย จนพรรคไทยสร้างไทยถูกจับตามองพอสมควร
ขณะที่ฉากหลังมี “ขุนพลระดับบิ๊กเนม” ช่วยขบคิดนโยบาย พร้อมกับเตรียมทัพหาสมาชิกพรรคหาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เกรดเอ เกรดบี เข้ามาร่วมงานกับพรรค เพื่อเตรียมตัวลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
“กรุงเทพธุรกิจ” ได้พูดคุยกับ “พงศกร อรรณนพพร” ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ พรรคไทยสร้างไทย ขุนพลแดนอีสาน ถึงการเตรียมความพร้อมในการลงสู่สนามเลือกตั้ง และเป้าหมายของพรรคไทยสร้างไทย
“พงศกร” เริ่มต้นเล่าว่า ไม่ว่าระบบการเลือกตั้งจะเป็นแบบบัตรใบเดียวหรือ 2 ใบ พรรคไทยสร้างไทย มีความพร้อมทั้งหมด ไม่เกี่ยงรูปแบบ ไม่ว่าใครจะเขียนกติกาขึ้นมา เราขอเพียงให้ประชาชนมาร่วมสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน
สิ่งสำคัญ เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้วต้องรักษากติกากลางให้ดี เรายึดมั่นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่น่าคิดแก้เฉพาะส่วนที่มีประโยชน์ต่อตัวเอง น่าจะทำทั้งฉบับ เนื่องจากจะเป็นกติกาที่ใช้กับคนทั้ง 70 ล้านคน จึงควรให้ประชาชนทุกกลุ่มมีส่วนร่วม
“พรรคมีความพร้อมทุกสถานการณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคประจำภาคซึ่งจะครบ 8 สาขาเดือนกรกฎาคมนี้ เนื่องจากถูกร้องขอเข้ามาจำนวนมาก แม้ตามกฎหมายจะกำหนดไว้ให้มีครบแค่ 4 สาขาในแต่ละภาคเท่านั้น จากนั้นจึงจะสามารถจัดประชุมเพื่อตั้งกรรมการบริหารพรรคเต็มรูปแบบ”
รวมถึงตั้งคณะบุคคลเป็นกรรมการคัดสรรผู้ที่จะลงสมัครส.ส. ในนามพรรค โดยในภาพรวมเราถือว่ามีความพร้อมมาก
"พรรคไทยสร้างไทยเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ที่มีอุดมการณ์ตรงกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานต้องยอมรับว่าพรรคเราเนื้อหอมจริง ผมทำการเมืองมา 20-30 ปี ยืนยันว่าความนิยมของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ในภาคอีสานไม่แพ้ใคร เวลาท่านลงพื้นที่จะเข้าใจบริบทของชาวบ้านและสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเรา เลยรู้สึกสบายใจในจุดหนึ่ง”
“พงศกร” ยืนยันว่า พรรคไทยสร้างไทย จะไม่ดึงส.ส.เดิมจากพรรคไหน แต่ถ้ามีการยุบสภา คนที่มีอุดมการณ์ตรงกันก็เข้ามาร่วมได้ เราไม่มีไปดึงส.ส.พรรคนั้นพรรคนี้ หรืองูเห่าอะไรนั้นไม่มีและมีเรื่องที่น่าดีใจอย่างหนึ่งคือ คนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถ มีความพร้อมในด้านต่างๆ สนใจมาลงสมัครในนามพรรคเราจำนวนมาก
โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพ และ SMEs ในต่างจังหวัด กลับมาสนใจการเมือง เราก็ตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคงเห็นถึงแนวทางและวิธีการว่ามีความจำเป็นต้องเข้าสู่การเมือง
“พงศกร” มองว่า วันนี้ประเทศไปไม่ได้เพราะรายรับไม่มี การบริหารงานของรัฐบาลก็ล้มเหลวการบริหารงานแบบรัฐราชการวันนี้มันเทอะทะ เราต้องปรับปรุงระบบและกฎหมายเพื่อเอื้อให้กับประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยมีที่ยืนมากขึ้น การสู้เพื่อคนตัวเล็ก ตรงนี้มีความสำคัญมาก คือผู้ประกอบการรายย่อย ถ้ามีโอกาสเราจะออกกฎหมายยกเว้นการขออนุญาติให้กับผู้ที่อยากประกอบกิจการหลายรูปแบบเป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้เกิดความสะดวกคล่องตัว ลงมือทำให้เป็นรูปเป็นร่างก่อน แล้วค่อยมาขออนุญาตให้ถูกต้องในภายหลัง ไม่จำเป็นต้องไปดูแลเจ้าสัวรายใหญ่
ถ้าลดความเป็นรัฐราชการได้ งบประมาณรายจ่ายประจำจะลดลงจำนวนมาก เช่น กระทรวงกลาโหม และอีกหลายหน่วยงาน ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้งบประมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“พรรคเราไม่ทะเลาะกับใคร จะเป็นพรรคสายกลาง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องยึดตรงนี้เป็นหลัก และต้องนำพาพี่น้องประชาชนออกจากวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าใครมีอุดมการณ์ตรงกันก็มาร่วมกับเราได้เลย”
“พงศกร” ยืนยันชัดเจนว่า พรรคไทยสร้างไทย มีความสามารถที่จะส่งผู้สมัครครบทุกเขตทั่วประเทศ ภาคใต้ครั้งนี้มีคนรุ่นใหม่สนใจมาก คนรุ่นเก่าก็มีจำนวนมากที่อยากมาร่วมงานกับเราและน่าจะมีเซอร์ไพรส์สำหรับคนที่จะเปิดตัวร่วมงานกับพรรค
แม้เวลานี้ ยังไร้วี่แววที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ไร้วี่แววยุบสภา แต่แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้น ฤาโถมเข้าใส่ “ประยุทธ์” ทุกพรรคการเมืองจึงต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด
เช่นเดียวกับ “พรรคไทยสร้างไทย” “พงศกร” ยืนยันว่า พร้อมลงสนามเลือกตั้งในทุกสถานการณ์