'ฝ่ายค้าน' โวย 'กมธ.งบฯ' ปิดโอกาสแฉเอกสารลับเรือดำน้ำ กลางที่ประชุม - จ่อเปิดโปง วงซักฟอก

'ฝ่ายค้าน' โวย 'กมธ.งบฯ' ปิดโอกาสแฉเอกสารลับเรือดำน้ำ กลางที่ประชุม - จ่อเปิดโปง วงซักฟอก

กมธ.งบฯ ฝั่งเพื่อไทย โวย กมธ.พปชร. ปิดโอกาสให้แฉเอกสาร จีทูจี เก๊ เรือดำน้ำ เตรียมไปเปิดกลางวงซักฟอกรัฐบาล

      ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประาณ พ.ศ. 2565 สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีวาระพิจารณาการเสนอของบประมาณของกระทรวงกลาโหม วงเงินรวม 9.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้มีประเด็นที่น่าจับตา คือ การพิจารณาการเสนอของบประมาณของกองทัพเรือ ต่อการจัดซื้อเรือดำน้ำ มูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท  

        ทั้งนี้เมื่อเริ่มประชุม กมธ. พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร แจ้งต่อที่ประชุมกมธ.ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ขอถอนวาระการจัดซื้อเรือดำน้ำ2ลำ ออกจากการประชุม จากนั้นที่ประชุมจึงพิจารณางบประมาณส่วนอื่นๆของกระทรวงกลาโหมตามวาระปกติ

       ภายหลังการพิจารณาในช่วงเช้า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.งบฯ65 กล่าวว่า ช่วงเริ่มต้นประชุมกมธ. กองทัพเรือแจ้งขอถอนวาระจัดซื้อเรือดำน้ำ 2ลำ ออกจากวาระประชุม แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆของเรือดำน้ำที่ยังค้างอยู่ไม่มีการถอนตามไปด้วย อาทิ การสร้างท่าเทียบเรือดำน้ำ และโรงซ่อมเรือดำน้ำ ที่มีมูลค่าหลายพันล้านบาท ทั้งนี้มีข้อสังเกตในงบกระทรวงกลาโหมที่มีความพยายามพิจารณาแบบรวบรัดให้พิจารณางบรวดเดียว 8หน่วยงาน ของกระทรวงกลาโหม ไม่ได้แยกทีละหน่วยงานเหมือนกระทรวงอื่นๆ ทั้งที่งบกลาโหมมีมากถึง2แสนกว่าล้านบาท และอยู่ในความสนใจของประชาชน นอกจากนี้ยังมีกมธ.งบฯฝ่ายรัฐบาลเสนอให้ประชุมลับงบกระทรวงกลาโหม แต่ฝ่ายค้านไม่ยอม เพราะข้อมูลที่จะซักถามไม่ใช่ข้อมูลลับ ไม่รู้ต้องการปกปิดข้อมูลอะไรหรือไม่ แต่ในที่สุดที่ประชุมกมธ.ไม่อนุญาตให้ประชุมลับ


        ขณะที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ฐานะ กมธ.งบฯ กล่าวด้วยว่าระหว่างที่อภิปรายเรื่องงบกระทรวงกลาโหม ถูกขัดขวางจากนายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะรองประธานกมธ.ฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ไม่ให้เปิดเผยหนังสือที่พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผบ.ทร. ทำหนังสือถึงรัฐบาลจีน เพื่อเร่งรัดการลงนามสัญญาเรือดำน้ำลำที่2-3 ให้ทันวันที่ 30กันยายน 2563 ก่อนที่พล.ร.อ.ลือชัยจะเกษียณอายุราชการ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตเป็นการทำสัญญาแบบจีทูจีจริงหรือไม่ รวมถึงรายละเอียดการจัดซื้อเรือแอลพีดีหรือเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ มูลค่า6,200ล้านบาท ที่พล.ร.อ.ลือชัยขอให้รัฐบาลจีนช่วยติดอาวุธให้เรือดังกล่าว ทั้งที่เรือลำนี้เป็นเรือรบ แต่เหตุใดตอนไปซื้อกลับไม่มีอาวุธให้ สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในหนังสือดังกล่าวต่อที่ประชุมได้ เพราะถูก กมธ.ฝ่ายรัฐบาลขัดขวาง

       นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ส่วนที่กองทัพเรือถอนวาระจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่2-3 ออกไปนั้น ไม่ใช่การยกเลิกการจัดซื้อ แต่คือการเลื่อนการจัดซื้อไปในปีต่อไป  แต่ฝ่ายค้านต้องการให้ยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำอย่างเด็ดขาด  รวมถึงยกเลิกงบกองทัพเรือที่ขอจัดซื้อโดรนป้องกันชายฝั่ง มูลค่า 4,500ล้านบาท และโครงการสร้างระบบวิทยุสื่อสารเรือดำน้ำ 300 ล้านบาท ซึ่งเสนอขอมาในร่างพ.ร.บ.งบฯ65 เป็นเป็นออปชั่นที่มาพร้อมกับเรือดำน้ำ

       "ผมจะเสนอให้โหวตในที่ประชุมกมธ.ตัดงบทั้ง2ส่วนนี้ทิ้ง ไม่จำเป็นต้องไปพิจารณาในชั้นอนุกมธ.อีก เพราะไม่มีความจำเป็นต้องจัดซื้อในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะหากรวมทั้งเรือดำน้ำ และอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับข้องด้วยแล้วจะมีมูลค่ารวมถึง 45,000ล้านบาท ดังนั้นต้องตัดทิ้งทั้งหมด ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม สั่งให้ถอนเรื่องเรือดำน้ำ 2 ลำออกไป เพราะเห็นแก่ความเดือดร้อนของประชาชนนั้น ผมมองว่าพล.อ.ประยุทธ์ ปากกับใจไม่ตรงกัน อีกทั้งพร้อมเอาชีวิตเข้าแลกเพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่กลัวตาย พร้อมสู้ทุกคดี เอาชีวิตเป็นเดิมพัน และจะเอาข้อมูลใหม่มาแฉ และเอาไปอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย" นายยุทธพงศ์ กล่าว.