'มาเลเซีย' ชี้ 'ไฟเซอร์ - ซิโนแวค' ประสิทธิภาพป้องกันโควิดเท่าเทียม

นายแพทย์อับดุลลาห์เปิดเผยว่า รายงานจาก New England Journal of Medicine วันที่ 7 ก.ค. ระบุว่า ผลการใช้วัคซีนซิโนแวคในชิลีระหว่างเดือนก.พ.-พ.ค.พบว่า ซิโนแวคสามารถลดการติดเชื้อโควิด-19 ได้ 65.9%, ลดการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ 87.5%, ลดการรักษาตัวในห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) ได้ 90.3% และลดการเสียชีวิตได้ 86.3% โดยมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวมาจากผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 4.2 ล้านคน เทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 5.5 ล้านคน

“ในทางกลับกัน การทดลองวัคซีนของไฟเซอร์ ซึ่งพบว่ามีประสิทธิผล 95% นั้น มาจากกลุ่มตัวอย่างที่น้อยมาก โดยมีการวิเคราะห์จากผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียง 170 คน โดย 8 คนได้รับการฉีดวัคซีน ส่วนอีก 162 คนไม่ได้รับการฉีดวัคซีน” นายแพทย์อับดุลลาห์กล่าว

นอกจากนี้ นายแพทย์อับดุลลาห์ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลเปิดเผยว่า ประสิทธิผลของวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคในการป้องกันการติดเชื้อลดลงสู่ระดับ 64% นับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. แม้ว่ายังมีประสิทธิผล 93% ในการลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

นายแพทย์อับดุลลาห์กล่าว ดังนั้น จึงไม่มีความแตกต่างมากนักระหว่างประสิทธิผลของวัคซีนไฟเซอร์และซิโนแวคในการใช้จริง โดยวัคซีนทั้งสองตัวต่างก็มีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อที่รุนแรง และการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล