'โอลิมปิก 2020' จารีต ‘เครื่องแต่งกาย’ ญี่ปุ่น ใน ‘Costume’ ผู้เชิญเหรียญ

'โอลิมปิก 2020' จารีต ‘เครื่องแต่งกาย’ ญี่ปุ่น ใน ‘Costume’ ผู้เชิญเหรียญ

แนวคิดการออกแบบ “Costume” หรือ “เครื่องแต่งกาย” ผู้เชิญเหรียญรางวัล "โอลิมปิก 2020" ซ่อนกิโมโน 12 ชั้นไว้ในเสื้อคลุมฮาโอริ

ฤดูใบไม้ผลิปี 2019 “คณะกรรมการโอลิมปิกโตเกียว” เปิดกว้างให้กับผู้สนใจออกแบบ เครื่องแต่งกายอาสาสมัครผู้เชิญเหรียญรางวัลและของที่ระลึก ในพิธีมอบเหรียญรางวัลโอลิมปิกให้กับนักกีฬาผู้ชนะเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง

ผลปรากฏว่าเครื่องแต่งกายที่ออกแบบโดย มร.โซตะ ยามากุชิ (Sota Yamaguchi) ได้รับเลือกให้ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าสำหรับอาสาสมัครผู้เชิญเหรียญรางวัลและของที่ระลึกได้สวมใส่

มร.โซตะ เป็นบรรณาธิการแฟชั่นดาวรุ่งผู้อยู่เบื้องหลังการจัดงานแฟชั่นโชว์มากมาย รวมทั้งนิทรรศการและออกแบบร้านค้า เขาให้สัมภาษณ์กับ “Tokyo2020” เว็บไซต์ทางการของการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว 2020 เกมส์” ว่า ในการออกแบบเครื่องแต่งกายอาสาสมัครฯ ครั้งนี้ สิ่งแรกที่เขาคิดก็คือการวางคอนเซปต์ เพื่อออกแบบเครื่องแต่งกายครั้งนี้ก็คือการวางคอนเซปต์

162771723493

มร.โซตะ ยามากุชิ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายผู้เชิญเหรียญรางวัลโอลิมปิก 2020

โดยคอนเซปต์ที่มร.โซตะ กำหนดไว้ก็คือ ‘a new style in formal wear’ การใส่สไตล์ใหม่ๆ ให้กับเสื้อผ้าพิธีการ(ของญี่ปุ่น)

“มองย้อนกลับไปเมื่อครั้งโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ที่เคยจัดในญี่ปุ่น สตรีผู้เชิญถาดเหรียญรางวัลสวมชุดกิโมโนเมื่อครั้งจัดการแข่งขันที่โตเกียว ปี 1964 และโอลิมปิกฤดูหนาวที่นาโงยะ ปี 1998 ผมมีความเคารพในจารีตประเพณี แต่ผมก็ยังดิ้นรนแสวงหาด้วยความคิดที่ว่า บางทีการดำเนินตามจารีตอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะลองทำสิ่งท้ายทายใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็ยังเชิดชูกิโมโนและเครื่องแต่งกายญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม” มร.โซตะ กล่าว

สิ่งที่ มร.โซตะ พยายามทำก็คือ ผสมผสานข้อดีของเสื้อผ้าที่แสดงถึง จิตวิญญาณแบบชาวญี่ปุ่น’ และ ความคล่องตัวแบบตะวันตก’ เข้าด้วยกัน เนื่องจากเสื้อผ้าแบบชาวญี่ปุ่นและของชาวตะวันตกมี ‘นัยแห่งการออกแบบ’ ที่แตกต่างกัน

162771781813

เครื่องแต่งกายผู้เชิญเหรียญรางวัลและของที่ระลึกโอลิมปิก "โตเกียว 2020 เกมส์"

“เสื้อผ้าของชาวตะวันตกสวมลงบนกล้ามเนื้อและเนื้อหนังของร่างกาย แพทเทิร์นจึงออกแบบตามส่วนโค้งส่วนเว้าของผู้สวมใส่ จึงสวมใส่ได้พอดีตัวและคล่องตัว ในทางตรงกันข้าม เสื้อผ้าของชาวญี่ปุ่นสวมลงบนกระดูก ส่วนที่รองรับเสื้อผ้าคือไหล่ จากนั้นใช้วิธีมัดรอบเอว จึงทำให้เกิดพื้นที่ว่างระหว่างร่างกายและเสื้อผ้า เพราะพื้นที่ว่างตรงนี้ รูปทรงของเสื้อผ้าจึงเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของร่างกายหรือสัดส่วนร่างกายผู้สวมใส่ ปรากฏเป็นความงามของเครื่องแต่งกายให้กับผู้สวมใส่ ผมคิดว่าน่าจะดีถ้าได้สร้างสรรค์สไตล์ที่ร่วมกันระหว่างญี่ปุ่นและตะวันตก ผสานข้อดีของสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน”

ดังนั้น ในการแปลงคอนเซปต์ที่วางไว้ให้เป็นจริง ดีไซเนอร์จึงตัดสินใจเลือกหยิบวัฒนธรรมการสวมใส่เครื่องแต่งกายญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม คือ Kasane (การซ้อนเป็นชั้นๆ) Ori (การพับ) Musabi (การมัด) และ Some (การย้อม) มาประยุกต์ให้เหมาะสมกับเทศกาลกีฬาร่วมสมัย

เครื่องแต่งกายที่แสดงถึงจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นที่มร.โซตะเลือกนำมาประยุกต์คือ ความประณีตสุดพิถีพิถันของเครื่องแต่งกายพิธีการระดับ junihitoe  (จูนิฮิโตเอะ) หรือกิโมโนราชวงศ์ชั้นสูงแห่งราชสำนักญี่ปุ่นในสมัยนาระที่มีผ้าซ้อนทับกันถึง 12 ชั้น

162771886014

เครื่องแต่งกายย้อมสีคราม โทนสีเดียวกับโพเดียม

แต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคมในญี่ปุ่น การใส่เสื้อผ้าซ้อนทับกัน 12 ชั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดี ทั้งร้อน ทั้งหนัก ลำบากในการเคลื่อนไหว และอาสาสมัครฯ ก็มีความแตกต่างกันทั้งกลุ่มอายุและเพศด้วยความร้อนของอากาศ

ดังนั้น เขาจึงเลือก Haori (ฮาโอริ) เสื้อคลุมเปิดลำตัวสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น มาแทนเครื่องแต่งกายแบบกิโมโน แล้วลดทอนการซ้อนทับกัน 12 ชั้นให้เหลือเป็นสัญลักษณ์แค่ 2 ชั้น ประดับไว้ตรงคอเสื้อคลุม

ในอดีต “ฮาโอริ” เป็นเสื้อคลุมทับชุดเกราะของนักรบยุคเซ็งโงกุ (Sengoku) แต่ไม่มีแขนเสื้อ เพื่อป้องกันความหนาวเย็นของอากาศ มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่สวมใส่ ต่อมาในสมัยเอโดะ สตรีเริ่มสวมใส่ฮาโอริโดยสวมคลุมชุดกิโมโนอีกที การใส่ฮาโอริถือเป็นการบ่งบอกฐานะความมั่งคั่งของชนชั้นกลางภายหลังที่เศรษฐกิจภายในประเทศเฟื่องฟู ปัจจุบันถือเป็นเครื่องแต่งกายพิธีการของญี่ปุ่น

162771750724

ลายทอรูปวงกลมบนเนื้อผ้า สื่อความหมาย "สามัคคี"

ฮาโอริ หรือเสื้อคลุมสำหรับงานกีฬาครั้งนี้ ตัดเย็บจากเนื้อผ้าซึ่งทอจากเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่เรียกว่า Ecopet เป็นเนื้อผ้าที่ทอขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้มีรูป วงกลม’ ต่อเนื่องกันไปทั้งผืน กว่าจะได้ลายผ้านี้ทั้งดีไซเนอร์และช่างทอผ้าชาวญี่ปุ่นผ่านการลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง พวกเขาช่วยกันย้อมสีเส้นด้ายด้วยสีครามแบบญี่ปุ่นที่มีความอ่อน-เข้มต่างกัน 6 เฉด เพื่อให้ลายวงกลมที่เกิดขึ้นมีสีแตกต่างจากสีพื้นของเนื้อผ้า

มร.โซตะตั้งใจให้รูปวงกลมนี้สื่อความหมายถึง ความสามัคคี’ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งของการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

นอกจากใช้ตัดเย็บฮาโอริ เนื้อผ้านี้ยังใช้ตัดเย็บเป็นกางเกงขายาวสำหรับผู้เชิญเหรียญรางวัลฝ่ายชาย ส่วนผู้เชิญเหรียญรางวัลฝ่ายหญิงสวมใส่กระโปรงตัดเย็บด้วยผ้าย้อมสีครามแบบญี่ปุ่น เพิ่มรายละเอียดด้านหลังกระโปรงด้วยการจับจีบ (pleated) ให้เป็นสัญลักษณ์ของ ohikizuri หรือการขลิบริมผ้าของชายกิโมโน

สำหรับ ‘เสื้อเชิ้ตตัวใน’ ตัดเย็บจากเนื้อผ้าที่ทอด้วยเส้นใยระบายอากาศได้ดี ใช้วิธีย้อมไล่เฉดสีทีละตัว เพื่อให้เฉดสีบนตัวเสื้อเข้ากับสรีระของผู้สวมใส่เฉพาะคน ทุกคนถึงจะสวมเสื้อแบบเดียวกัน ทว่าแต่ละคนยังคงฉายบุคลิกของตัวเอง

มร.โซตะเลือกโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่มีคุณภาพในเมืองฮะนะมะกิ (Hanamaki) ในจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ไม่เพียงแต่ตั้งใจช่วยฟื้นฟูธุรกิจในเขตที่เคยประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 แต่โรงงานเย็บผ้าในย่านนี้ตอบโจทย์เรื่องฝีมือการตัดเย็บ ค่าใช้จ่าย และเวลาส่งมอบของ

162771767196

รองเท้าแตะรัดส้นสไตล์ตะวันตก

อีกหนึ่งองค์ประกอบของเครื่องแต่งกายชุดนี้คือ รองเท้า เป็นรองเท้าแตะรัดส้นสไตล์ตะวันตกอย่างชัดเจน ดูไม่เข้ากับสไตล์เสื้อผ้า

ในเรื่องนี้ ดีไซเนอร์ให้เหตุผลว่า เขาลองนึกถึงการแข่งขันกีฬาทางน้ำ เช่น เซิร์ฟ พิธีมอบเหรียญรางวัลเกิดขึ้นบนชายหาด ไม่สะดวกเลยที่จะสวมรองเท้าเกี๊ยะญี่ปุ่นเดินบนชายหาด เมื่อทบทวนดูแล้ว รองเท้าแตะรัดส้นแบบตะวันตก น่าจะสะดวกกับทุกสถานที่ในพิธีมอบเหรียญรางวัลสำหรับกีฬาทุกประเภท

“เราทำงานด้วยกันเป็นทีม ร่วมกับช่างหัตถกรรมและบุคลากรโรงงาน เพื่อตัดเย็บเครื่องแต่งกายอย่างพิถีพิถัน ผมหวังจริงๆ ว่าพิธีมอบเหรียญรางวัลจะเป็นนาทีที่น่าจดจำสำหรับทุกคนที่มีส่วนร่วม หากเครื่องแต่งกายทำให้ผู้ทำงานภาคสนามสวมใส่สบายและคล่องตัว ขณะเดียวกันก็ยังมีความเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันและไม่เสียสมาธิกับพิธี ผมก็จะมีความสุขมาก” มร.โซตะ กล่าว

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : olympics.com

* * * * *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

โพเดียม ‘โอลิมปิก 2020’ สวยงามมากกว่าที่ตามองเห็น

‘ญี่ปุ่น’ รีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ 78,985 ตัน ทำ ‘เหรียญ’ รางวัล ‘โอลิมปิก’ 2020