@ 'ศูนย์พักคอย' ว.เทคนิคมีนบุรี พร้อมดูแลผู้ป่วยโควิดในกทม. 143เตียง

จากการได้ปรับปรุงพื้นที่อาคารเรียนปฎิบัติ 4 ชั้น วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี  ให้กลายเป็น ศูนย์พักคอย รองรับผู้ป่วยโควิด 19 จำนวน 143 เตียง แบ่งเป็นผู้ป่วยหญิงใช้พื้นที่ชั้น 2 จำนวน 70 เตียง และผู้ป่วยชายใช้พื้นที่ชั้น 4 จำนวน 73 เตียง โดยขณะนี้มี ผู้ป่วยโควิด-19 ได้ติดต่อเข้ามาขอรับการดูแลที่ศูนย์ดังกล่าวแล้วกว่า 300 ราย

• 'ว.เทคนิคมีนบุรี' ปรับอาคารเรียน เป็น 'ศูนย์พักคอย'ดูแลผู้ป่วย

‘วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี’ เป็น 1 ในวิทยาลัยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ได้เข้าร่วมปรับวิทยาลัยอาชีวศึกษา เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์พักคอย ให้แก่ ผู้ป่วยโควิด-19

นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เล่าว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 รุนแรงอย่างต่อเนื่อง และวิทยาลัยไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง เมื่อคนในชุมชนมีการติดโควิด-19 จำนวนมาก เมื่อทางชุมชนมีนบุรี โรงพยาบาลนวเวช มูลนิธิบุญยะจินดา และทีมงานเพจจักรทิพย์คนทำงาน ได้ร่วมกันจัดตั้ง ศูนย์พักคอย ซึ่งจะดูแล ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ในชุมชนมีนบุรี และชุมชนใกล้เคียง เนื่องจากขณะนี้มีผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจำนวนมากที่ต้องรอเตียงอยู่ที่บ้าน

“ในส่วนของวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี จะอำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่ และมีการจัดส่งทีมนักศึกษาช่างเข้ามาซ่อมบำรุงปรับปรุงสถานที่ภายในภายนอก ระบบวิศวกรรมทั้งหมด รวมถึงดำเนินการติดตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วย จุดวัดอุณหภูมิและวัดค่าออกซิเจน ติดตั้งและทดลองระบบไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต ระบบเสียงตามสาย กล้อง CCTV รวมถึงเรื่องด้านสุขอนามัยระบบกำจัดขยะและระบบบำบัดน้ำเสีย ทดลองระบบพร้อมสำหรับใช้งาน และบริษัทมาสเตอร์คูล ได้ติดตั้งระบบพ่นไอน้ำฆ่าเชื้อนาโนให้ฟรี ส่วนภาคชุมชน ผู้นำชุมชนได้นำทีมอาสาเข้าไปทำความสะอาด พร้อมกับตั้งกองอำนวยความสะดวกด้านงานบริการต่าง ๆ” นายทวีศักดิ์ กล่าว

• 'ศูนย์พักคอย'ว.เทคนิคมีนบุรี พร้อมดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว

ทั้งนี้ ในเรื่องการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 นั้น ได้รับความร่วมมือทีมแพทย์จาก โรงพยาบาลนวเวช เป็นผู้บริหารจัดการผู้ป่วย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาในส่วนให้การให้ดูแลผู้ป่วยตามระบบ Tele-Medicine ซึ่งใช้ในศูนย์พักคอย มีการมอนิเตอร์ทุกวัน

รวมถึง มีการประสานความร่วมมือกับส่วนกลางในการส่งต่อผู้ป่วยกับ 1330 และทางศูนย์เอราวัณ รวมถึงหน่วยงาน และโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการรองรับ หากกรณีพบผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองเกิดขึ้น

นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของอุปกรณ์เครื่องนอน พัดลม มุ้ง ผ้าห่ม มูลนิธิบุณยะจินดาฯ ร่วมบริจาคพร้อมกับจัดห้องปันสุข Happy Corner ไว้แบ่งปันน้ำดื่ม มาม่า ชา กาแฟ สำหรับผู้ป่วยฟรีในช่วงเข้าพักรักษา พร้อมด้วยถุงยังชีพแรกเข้าสำหรับผู้ป่วย ส่วนเตียงกระดาษได้รับการสนับสนุนจาก SCG และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ บริษัทสหพัฒนพิบูลฯ และพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของเข้ามามากมาย

“ตอนนี้แม้สถานการณ์จะวิกฤตรุนแรง แต่จะเห็นได้ว่าคนไทยมีน้ำใจ พร้อมช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเวลา ดังนั้น ในหลายๆ พื้นที่ชุมชน และคนในชุมชน ผู้หลักผู้ใหญ่ในชุมชน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ต้องช่วยเหลือ ดูแลร่วมกัน อย่ามองว่าเป็นเพียงหน้าที่ของรัฐ เพราะตอนนี้สิ่งที่ทุกคนทำได้ คือ การดูแลตัวเองให้ดีที่สุด และหากมีผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชน อย่ารังเกียจ แต่ขอให้ช่วยเหลือกัน” นายทวีศักดิ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ศูนย์พักคอย' กทม. เดินหน้าขยาย 6,013 เตียง ภายในต้น ส.ค. นี้

                    เปิดภารกิจ 'อาสาเส้นด้าย' 3เดือนช่วย 'ผู้ป่วยโควิด' 1.2หมื่นคน

                    กทม. เปิด 'ศูนย์พักคอยสำหรับเด็ก' ป่วยโควิด-19 เกียกกาย

• ฝาทุกคนดูแลตนเอง และช่วยดูแลผู้ป่วยใน 'ศูนย์พักคอย'

ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจารย์ บุคลากรของวิทยาลัย นักศึกษาได้เข้าไปเป็นจิตอาสาในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามกำลังที่ทำได้ ซึ่งเมื่อทางวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี จะเปิดเป็นศูนย์พักคอย ครูอาจารย์ นักศึกษาทุกคนเข้าใจความยากลำบากของประชาชน และ วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เป็นพื้นที่ของหลวง ทุกคนยินดีให้ใช้ และไม่กระทบกับการเรียนการสอน เนื่องจากตอนนี้ทุกคนเรียนออนไลน์

ผอ.วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี กล่าวด้วยว่าเรามีสถานที่ มีบริเวณให้ผู้ป่วยโควิด-19 ได้เข้ามารักษา และมีความร่วมมือกับคนในชุมชน ภาคส่วนต่างๆ เข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งโรงเรียน วิทยาลัยเทคนิคจะดูอยู่โดดเดี่ยว โดยไม่ช่วยสังคมไม่ได้

ดังนั้น ปัจจุบันการช่วยเหลือ ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ถ้าทำเพียงรัฐฝ่ายเดียวอาจจะไม่คล่องตัวเหมือนพลังชุมชนและไม่ต้องติดข้อจำกัดมากมาย วิทยาลัยไม่มีเงินแต่มีสถานที่ ก็ได้คนในชุมชน และทุกคนเข้ามาช่วยสนับสนุน ขับเคลื่อน ศูนย์พักคอย แห่งนี้

“ในส่วนของประชาชน ชุมชน ลูกศิษย์ ทุกคนต้องป้องกันตนเอง อยู่ในที่ที่ปลอดภัยให้มากที่สุด อย่าไปอยู่ในจุดเสี่ยง ควรอยู่บ้านให้ปลอดภัย และอยู่บ้านก็ไม่ต้องตัวติดกันมาก เว้นระยะห่างต่อกัน และต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการตรวจโควิด 19 ซึ่งหากตรวจพบว่าติดเชื้อ ควรแยกกักตัวเองให้เร็วที่สุด ถ้าอยู่บ้านไม่สะดวกให้ติดต่อมาศูนย์พักคอยใกล้บ้าน” นายทวีศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

หรือเข้าร่วม Home Isolation หรือ Community Isolation อาการไม่หนัก ไม่แสดงอาการอย่ามองหาแต่โรงพยาบาล เพราะตอนนี้รพ.รับภาระหนักมาก ทุกคนต้องดูแลสุขภาพให้ดี ปฎิบัติตามคำสั่งแพทย์ และต้องช่วยกันดูแลบ้าน ครอบครัว ชุมชนของเรา โดยเฉพาะชุมชนต้องรวมพลังกันดูแลซึ่งกันและกัน ที่สำคัญ ถ้าได้ฉีดวัคซีนควรฉีด อย่าเลือกวัคซีนที่จะฉีด

สำหรับผู้ที่อยู่ใน ชุมชนมีนบุรี หรือชุมชนใกล้เคียง หากต้องการเข้ารับการรักษาในศูนย์พักคอย วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี สามารถติดตามได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก จักรทิพย์คนทำงาน https://www.facebook.com/CC.Kontumngan