ศบค. ชี้กระจาย 'Pfizer' แล้ว 50-60% ฉีดบุคลากรแพทย์ 39,483 คน

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ว่า ขณะนี้มีหน่วยปฐมภูมิ 246 หน่วย นำผู้ป่วยเข้าระบบ Home Isolation แล้วประมาณ 100,000 คน ส่วน Community isolation ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวน 67 แห่ง และขยายศักยภาพเตียงทุกกลุ่มเขต 8,886 เตียง

ส่วน รพ.บุษราคัม มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 3,674 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยระดับอาการสีเหลืองอ่อน 3,311 คน สีเหลือง 346 คน และผู้ป่วยสีแดง 17 คน

นอกจากนี้ ปรับศักยภาพโรงพยาบาลสนามให้ดูแลผู้ป่วยสีเหลืองเพิ่มได้ 2,000 กว่าเตียง และ Hospitel ปรับให้ดูแลผู้ป่วยระดับสีเหลืองอ่อน 4,000 กว่าเตียง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากศูนย์เอราวัณ ได้จัดรถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีอาการเปลี่ยนแปลงและต้องเข้ารับการรักษาในระดับสีแดง วันละเกือบ 500 เที่ยวต่อวัน

ในพื้นที่กรุงเทพฯ ผู้ป่วยที่เข้าตรวจหาเชื้อใน รพ. จะพบอัตราการพบผลบวก หรือติดเชื้อ อยู่ที่ 40% ส่วนต่างจังหวัด 25% ขณะที่การตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit ทั้งการคัดกรองเชิงรุก หรือตรวจโดยสถานพยาบาล พบผลบวก 10-14% โดยผู้ที่มีผลตรวจด้วย Antigen Test Kit ถือเป็นผู้ป่วย และเข้าระบบ Home Isolation ได้ทันที ส่วนการเข้า Community isolation เบื้องต้นขอให้แยกกับผู้ป่วยอื่นก่อนได้รับผล RT-PCR

พญ.อภิสมัย ชี้แจงการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสให้บุคลากรการแพทย์ ว่า บุคลากรทางการแพทย์ ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 วัคซีนไฟเซอร์แล้ว 39,483 คน โดยขณะนี้กรมควบคุมโรคจะส่งวัคซีนให้เบื้องต้น 50-60% ของความต้องการที่สำรวจได้ จากนั้นจะสำรวจศักยภาพการฉีดในแต่ละจุดและจัดสรรวัคซีนให้เพิ่มเติม โดยตั้งแต่วันที่ 5-6 ส.ค. 64 ได้จัดสรรไปยังหน่วยฉีดแต่ละจังหวัด เพราะมีรายละเอียดเรื่องการขนส่งและจัดเก็บ พร้อมย้ำนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกำกับติดตามทุกหน่วยฉีดเพื่อให้เกิดความโปร่งใส

ส่วนกลุ่มนักเรียนที่ต้องเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ขอให้ติดต่อยื่นความประสงค์รับวีคซีน โดยลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ดและรับ SMS แจ้งนัดหมายฉีดวัคซีน