กนอ.เร่งมือช่วย47โรงงาน ผลกระทบท่วมนิคมบางปู
“วีริศ” เผยผลกระทบน้ำท่วมนิคมบางปู 47 แห่ง เร่งประเมินความเสียหาย หาทางช่วยเหลือ ชงปลัดอุตสาหกรรมใช้สินเชื่อกองทุนเอสเอ็มอีประชารัฐ
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ วานนี้ (30 ส.ค.) ได้ระบายน้ำอยู่ 2 ทิศทาง คือ 1.บริเวณทิศเหนือจะระบายน้ำลงที่คลองหกส่วน 2.บริเวณทิศตะวันออก ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งของเขตประกอบการเสรีจะระบายน้ำลงที่คลองลำสลัด โดยการระบายน้ำของทั้ง 2 คลองนี้จะไหลมารวมกันที่คลองชายทะเล ซึ่งตรงจุดนี้ควบคุมการสูบน้ำโดย กรมชลประทาน ที่สถานีสูบน้ำตำหรุ
นายวีริศ กล่าวว่า กนอ.ได้สรุปผลกระทบต่อโรงงานเบื้องต้นแบ่งเป็น 2 พื้นที่ คือ 1.พื้นที่ฟรีโซนที่ยังมีน้ำท่วมขัง 300 ไร่ และพยายามที่จะระบายน้ำออกมา โดยมีโรงงานในพื้นที่ฟรีโซน 34 แห่ง 2.พื้นที่นอกฟรีโซนที่ยังมีน้ำท่วมขังต่อเนื่องจากพื้นที่ฟรีโซน มีโรงงานที่ได้รับผลกระทบ 10 แห่ง
นอกจากนี้ กนอ.ได้สรุปผลกระทบต่อภาคการผลิตเบื้องต้นแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ 1.ผลกระทบต่อสายการผลิตที่จะมีการประเมินอีกครั้ง 2.ผลกระทบต่อคลังสินค้า 3.ผลกระทบจากการขนส่งสินค้าเพื่อส่งมอบให้ลูกค้าไม่ได้ 4.ผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ถูกน้ำ
ทั้งนี้ โรงงานบางแห่งมีการประกันภัยน้ำท่วม แต่โรงงานบางแห่งไม่ได้ทำประกันภัย ซึ่งได้หารือกับนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอใช้วงเงินจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ เพื่อให้สินเชื่อกับโรงงานที่เป็นเอสเอ็มอีดอกเบี้ยต่ำ 1% และถ้าไม่เพียงพอได้ประสานธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อให้สินเชื่อเพิ่มเติม รวมทั้ง กนอ.กำลังพิจารณาลดค่าธรรมเนียมให้กับโรงงานที่ได้รับผลกระทบ 1 ปี
นายวีริศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางนิคมอุตสาหกรรมบางปูระดมทีมระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยล่าสุดพื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตประกอบการทั่วไปน้ำลดลงจนเกือบแห้ง ยกเว้นในบริเวณซอย 11 ถึง 14 ที่ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ที่ระดับความสูงกว่าหรือไม่เกิน 10 เซนติเมตร ในขณะที่ในเขตประกอบการเสรียังคงท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ และถ้าฝนไม่ตกเลยน้ำก็จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ และทำให้การสัญจรไปมาได้
“ปัญหาที่เราพบตอนนี้ คือ น้ำที่หลากมาจากถนนพัฒนา 1 เข้าสู่เขตประกอบการเสรีทำให้น้ำลดลงได้ช้า โดยสิ่งที่นิคมฯ ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ การเร่งระบายน้ำออกคลองชายทะเลเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้ามาภายในเขตประกอบการการเสรี โดยเบื้องต้นได้รับความช่วยเหลือจาก อบจ.สมุทรปราการ นำรถสูบน้ำแบบทางไกล เข้ามาในพื้นที่แล้ว 6 เครื่อง และในวันนี้ กรมทรัพยากรน้ำฯ นำเครื่องสูบน้ำมา 3 เครื่อง และหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะนำมา 2 เครื่อง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีตำรวจภูธรบางปู กรมพลาธิการทหารบก และจิตอาสา ก็ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกภายในนิคมฯ ขณะเดียวกันก็เตรียมเสนอคณะกรรมการ กนอ.เพื่อหาพิจารณาปรับปรุงแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาระยะยาว”นายวีริศ กล่าว
สำหรับนิคมฯบางปู มีสถานีสูบป้องกันน้ำท่วม 12 สถานี กำลังการสูบรวม 73,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อ ชั่วโมง และเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ 10 ชุด กำลังการสูบรวม 12,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง รวมความสามารถการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ 85,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อ ชั่วโมง