'ปชป.'พร้อมชิง'ผู้ว่าฯกทม.' ลุ้นเข้าคูหา 12ธ.ค. หวังทวงส.ส.เมืองหลวงคืน
"จุรินทร์" ชี้ ผลโหวตไว้วางใจ คะแนนเกาะกลุ่ม สะท้อนเอกภาพรัฐบาล เมิน ลูกพรรคโหวตสวน โยน เลขาฯ ปชป. จัดการ แจง ไร้สัญญาณปรับครม. ลั่น พร้อมส่งสมัคร ลุ้น กาบัตร ผู้ว่าฯกทม. 12ธ.ค. มั่นใจ ทวงคืน ส.ส. เมืองหลวง แย้ม ส.ส.พรรคอื่นเตรียมย้ายซบ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายกรัฐมนตรีว่า คะแนนไม่ไว้วางใจก็เป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย หากย้อนหลังกลับไปดูจะพบว่าโอกาสที่จะคะแนนเท่ากันเป๊ะ ก็เกือบจะเรียกว่าน้อยมาก ตนอยู่ในวงการเมืองมาพอทราบได้ ซึ่งก็จะมีมากบ้างน้อยบ้างทั้งหมดนี้ถือว่าคะแนนยังเกาะกลุ่มกัน ซึ่งถือว่ายังสะท้อนความเป็นเอกภาพในรัฐบาลอยู่
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนแรงกระเพื่อมภายในพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ไม่ขอก้าวล่วง เราก็ขอทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาเราก็ทำหน้าที่ของเราสุดความสามารถ กระทรวงไหนที่เรารับผิดชอบเราก็ดูแลเต็มที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่รัฐมนตรีว่าการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ก็ชี้แจงได้ชัดเจน ครบถ้วนทุกประเด็น และคะแนนไว้วางใจที่ออกมาก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเป็นที่ยอมรับในผลงาน และในทุกประเด็นที่ท่านชี้แจง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่มี ส.ส. จำนวนหนึ่งโหวตสวนมติว่าจะมีแนวทางกำชับตักเตือนหรือไม่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนคงไม่ตักเตือนแล้ว แต่ถ้าจะติดตามก็จะเห็นว่าเป็นคนเดิม เลขาธิการพรรคก็ได้ชี้แจงไปแล้ววานนี้ว่าท่านจะไปดำเนินการอย่างไร ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของท่าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นต่อสถานการณ์ของรัฐบาลอย่างไรว่าจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่าจะอยู่ครบเทอม หรือไม่ครบเทอม แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งหนึ่งที่เราควรถือเป็นหลักกันไว้ก็คือ ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นมาสมมติถ้ามันจะเกิดก็ขอให้เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีทางไปตามระบบ ซึ่งระบบก็มีการกำหนดไว้แล้วในรัฐธรรมนูญว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง มีขั้นตอนกระบวนการอย่างไรบ้าง ถ้าทุกคนยึดหลักอันนี้ ก็คิดว่าการเมืองก็ไปต่อได้ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ใครจะเป็นฝ่ายค้านก็ตาม
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าถึงขณะนี้มีสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยัง สำหรับประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในวันที่ 7 กย. นี้ ครม. จะมีการเคาะวันเลือกตั้งท้องถิ่น กทม. และพัทยานั้นประชาธิปัตย์มีการเตรียมการมาโดยลำดับ อย่างน้อยที่สุดประการแรก ตนได้ลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับเพื่อนอดีต ส.ส. อดีต ส.ก. อดีต ส.ข. และกรรมการบริหารพรรคมาตลอด แม้แต่วันนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงการเตรียมตัวผู้สมัคร สำหรับ ส.ส. เดิมนั้น พรรคเตรียมไว้สำหรับ 30 เขต เพราะรัฐธรรมนูญยังถือว่ามี 30 เขตอยู่เพราะยังไม่มีการแก้ไข ถ้าแก้ก็ว่ากันอีกที ในส่วน 30 เขตนี้ พรรคเคาะตัวผู้สมัครแล้ว 27 คนยังขาดเพียง 3 เขตเท่านั้น สำหรับผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต เคาะไปแล้ว 40 กว่าเขต เพราะฉะนั้น ทุกอย่างถือว่าในแง่ตัวบุคคลก็มีความพร้อม และขณะนี้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส. ส.ก. ของพรรค ก็เดินหน้าลงพื้นที่ไปแล้วหลายเดือน โดยต่อเนื่องสม่ำเสมอ
“ประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ในอดีต แม้ว่าบางช่วง บางเวลาอาจจะได้รับคะแนนความนิยมลดน้อยถอยลงไปบ้าง แต่ผมก็ยังหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถฟื้นพรรคประชาธิปัตย์กลับคืนมาได้ในกรุงเทพมหานคร ภายใต้การสนับสนุนของพี่น้องชาวกรุงเทพ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
สำหรับในส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีการกำหนดเบื้องต้นว่าจะมีการเลือกตั้งภายในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ได้มีการวางไทม์ไลน์เปิดตัวผู้สมัครอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคกล่าวว่า ยังไม่มีการวางไทม์ไลน์ แต่มีตัวผู้สมัครแล้ว และได้มีการเตรียมการมาระยะหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดตัว เหตุที่ยังไม่เปิดตัวเพราะยังไม่มีความแน่นอนและชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แม้จะปรากฎมีข่าวว่าจะมีการเสนอเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นเข้าสู่ ครม. เร็วๆ นี้ในปลายปีนี้ ที่จะให้มีการเลือกตั้งก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้ชัดเจนว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งก็มี อบต. เป็นต้น จะมี กทม. กับ เมืองพัทยาอยู่ด้วยหรือไม่ ซึ่งก็ต้องติดตามมติคณะรัฐมนตรีก่อน และจะต้องฟังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนด้วยว่า จะมีความเห็นว่าอย่างไร ซึ่งต้องถือเป็นหลักใหญ่ เพราะขณะนี้ถือว่ายังไม่มีการเคาะในเรื่องนี้
ส่วนผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่า กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น หัวหน้าพรรคกล่าวว่า ตนมั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุดผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นที่ยอมรับ และตนก็เคยย้ำไปแล้วว่าเป็นทั้งคนรุ่นใหม่ และเป็นนักบริหาร เพราะกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าต้องเป็นนักบริหาร เพราะฉะนั้นได้พิสูจน์ฝีมือ ศักยภาพ ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วในการบริหารองค์กรอื่นๆ
“ผมก็มั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุดพี่น้องชาวกรุงเทพ จะรับไว้ประกอบการพิจารณา ไม่ใช่ได้ยินชื่อปั๊บก็เขี่ยทิ้ง ผมไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีส.ส. ขอย้ายเข้ามาสังกัดพรรคในขณะนี้ด้วยหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มี แต่ไม่ขอตอบรายละเอียดว่าเป็นใคร จังหวัดไหน เขตไหน แต่มีสมาชิกและบุคคลที่มีศักยภาพที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคในปัจจุบันที่ประสงค์จะเดินเข้ามาร่วมพรรคกับประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
“ก็มีแจ้งความจำนงมา แต่อยู่ที่พรรคจะพิจารณาต่อไป แต่ไม่ขอตอบว่ากี่คน แต่เอาว่ามีก็แล้วกัน แล้วก็มีทั้งคนรุ่นใหม่ แล้วก็มีทั้งคนที่มีศักยภาพ เป็นทั้งนักธุรกิจก็มี เป็นนักกฎหมายก็มีเป็นผู้บริหารก็มี มีหลายวงการที่จะเข้ามาร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคต่อไปในอนาคต” นายจุรินทร์ กล่าว