สรุป "น้ำท่วม" 8 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนกว่า 50 ครัวเรือน

สรุป "น้ำท่วม" 8 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนกว่า 50 ครัวเรือน

ปภ. รายงานสถานการณืน้ำท่วม ล่าสุด ยังคงมีน้ำท่วม รวม 8 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 52 ครัวเรือน ประสานจังหวัดดูแลประชาชนและเร่งคลี่คลายสถานการณ์

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 65 ปภ.รายงานอิทธิพลจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใน 10 จังหวัด รวม 12 อำเภอ 14 ตำบล 24 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา และระยอง รวม 4 อำเภอ 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52 ครัวเรือน ขณะที่ผลกระทบจากพายุหมาอ๊อน (MAON) และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 14 อำเภอ 124 ตำบล 596 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบภัย และระดมกำลังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง 
 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่

โดยตั้งแต่วันที่ 4 - 6 ก.ย. 65 ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่

  1. เชียงราย
  2. เชียงใหม่
  3. ลำปาง
  4. พะเยา
  5. เพชรบูรณ์
  6. เลย
  7. ศรีสะเกษ
  8. สมุทรปราการ
  9. ระยอง
  10. ตรัง

รวม 12 อำเภอ 14 ตำบล 24 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 4 อำเภอ 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน ดังนี้ 
 

  1. เชียงใหม่ เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย รวม 1 หมู่บ้าน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ระดับน้ำลดลง 
  2. ลำปาง เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ตำบลวังซ้าย อำเภอวังเหนือ 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 
  3. พะเยา เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ตำบลเวียง และตำบลต๋อง อำเภอเมืองพะเยา ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ระดับน้ำลดลง 
  4. ระยอง เกิดน้ำท่วมขังบนถนนทางหลวงหมายเลข 36 บริเวณแยกสวนสมเด็จย่า และหมู่บ้านโมเดิร์นซิตี้ ตำบลทับมา และพื้นที่ก่อสร้างผนังกั้นน้ำ ตำบลดีเซล อำเภอเมืองระยอง ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ระดับน้ำลดลง

ขณะที่ผลกระทบจาก พายุหมาอ๊อน (MAON) และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยสถานการณ์ล่าสุดในวันที่ 6 ก.ย. 65 ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 14 อำเภอ 124 ตำบล 596 หมู่บ้าน ดังนี้ 

  1. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ รวม 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 157 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 
  2. พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะหัน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน และอำเภอนครหลวง รวม 98 ตำบล 510 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 19,211 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 
  3. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ และอำเภอป่าโมก รวม 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 297 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 
  4. ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,926 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และจะได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”