"เสี่ยอั๋น" โชกโชน! เปิดประวัติ 5 คดี หลังบุกยิงหนุ่มตายคาอ่างในรีสอร์ท

เส้นทางชีวิต "เสี่ยอั๋น" โชกโชน! เปิดประวัติ 5 คดี หลังบุกยิงหนุ่มตายคาอ่างในรีสอร์ท ความคืบหน้าคดีของ “เสี่ยอั๋น” เจ้าของธุรกิจในตลาดมหาชัย หรือ นายรุ่งโรจน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุบุกยิงนายยุทธภัณฑ์ พ่วงนวม อายุ 27 ปี เสียชีวิตในอ่างน้ำรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา

ก่อนตำรวจสามารถตามไปจับกุมตัวได้ที่บริเวณตำรวจทางหลวงเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยมีนางสาวเบญจมาศ อายุ 39 ปี ภรรยานั่งอยู่เบาะข้าง คาดว่าหลังก่อเหตุเสี่ยอั๋นตั้งใจขับรถมุ่งหน้าไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมที่จะข้ามพรมแดนไทย-เมียนมาร์

ภายหลังตำรวจเข้าจับกุมนายรุ่งโรจน์ หรือเสี่ยอั๋น ในพื้นที่จ.ลำปาง จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเสี่ยอั๋นมีคดีติดตัวถึง 5 คดีด้วยกัน 

1. คดีอาญาที่ 2514/2553 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น

2. คดีอาญาที่ 4399/2555 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหาฆ่าผู้อื่น

3. คดีอาญาที่ 1/2563 สภ.ชนบท ข้อหาตัวการมี อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน), พยายามฆ่าผู้อื่น, ตัวการพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่

4. คดีอาญาที่ 63/2563 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหาตัวการมี อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน)

5. คดีอาญาที่ 255/2563 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหาตัวการมี ใช้ อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้อนุญาต

กองปราบชี้ “เสี่ยอั๋น” ยิงชายคนสนิทภรรยา เครียดให้การขัดแย้ง

ตำรวจกองปราบ รวบ “เสี่ยอั๋น” ยิงชายคนสนิทภรรยาคารีสอร์ท สอบปากคำทั้งคู่ยังให้การขัดแย้ง ทั้งปมหึงหวง-ปัญหาการเงิน ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ อยู่ระหว่างสอบสวนละเอียด รวบรวมพยานหลักฐาน ขณะที่ผู้ต้องหาอยู่ในสภาพเครียด เจ้าตัวหนีประกันตัวช้้นศาล ก่อนก่อเหตุอีกครั้ง

ล่าสุด พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีเทา รองผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบ และชุดทำงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยระบุว่า การจากสอบปากคำของตัวผู้ต้องหาและภรรยายังให้การขัดแย้งกันอยู่ ทั้งในเรื่องความหึงหวงและปัญหาทางการเงิน จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุแท้จริงเกิดจากอะไร และอยู่ในระหว่างพนักงานสอบสวนสอบปากคำอย่างละเอียดและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้น

เบื้องต้น จากการสอบปากคำเบื้องต้นตัวผู้ต้องหาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่เท่าที่สังเกตพบว่าอยู่ในอาการเครียด ส่วนภรรยาให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ทะเลาะกับผู้ต้องหา ก่อนกลับบ้านมาที่จังหวัดขอนแก่นนาน 1 เดือน และเริ่มสานสัมพันธ์คบหากับชายคนใหม่ คือ นายยุทธภัณฑ์ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนและไปเที่ยวกันใกล้กับโซนที่พักจุดเกิดเหตุ ก่อนจองที่พักดังกล่าวไว้ ซึ่งผู้ต้องหาทราบจากการโพสต์เช็คอินลงโซเชียล จึงเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อจองที่พักและก่อเหตุ โดยสาเหตุที่ต้องขึ้นรถไปกับผู้ต้องหาหลังเกิดเหตุ เพราะผู้ต้องหาใช้ปืนจี้และบังคับให้ขึ้นรถไป พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมายังติดต่อกันอยู่ ส่วนรายละเอียดเชิงลึกอยู่ในสำนวน

ทั้งนี้ ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และต้องไปพิสูจน์ทราบจากคำกล่าวอ้างของทั้งคู่อีกครั้ง เนื่องจากทั้งคู่ให้การขัดแย้งกันอยู่

เบื้องต้นมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. นายยุทธภัณฑ์ ผู้ตาย และนางสาวเบญจมาศ แฟนของผู้ต้องหา ได้เดินทางมาพักที่รีสอร์ทด้วยรถยนต์ Honda CIVIC สีขาว และเปิดห้องพัก 1 ห้อง ก่อนเข้าไปพักและสั่งเบียร์ไปดื่มภายในรีสอ์ท

กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ลูกค้าที่พักอยู่ในห้องอื่นได้ยินเสียงปืนหลายนัด จึงโทรแจ้งผู้จัดการซึ่งอยู่ที่บ้าน ผู้จัดการจึงโทรให้น้องสาวไปตรวจสอบ เมื่อน้องสาวเดินไปจะถึงห้องพักที่เกิดเหตุ ได้เห็นนางสาวเบญจมาศ เดินสวนมาพร้อมกับเสี่ยอั๋นแล้วขับรถ Honda CIVIC สีขาวออกไป

จากนั้น ช่วงเช้าวันถัดมาเวลา 08.30 น. แม่บ้านจะไปทำความสะอาดจึงพบร่างผู้เสียชีวิต และพบว่าเสี่ยอั๋นที่พักอยู่ห้องพักหลังที่ 4 ได้หายไป โดยจอดรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาจอดไว้ที่นอกรั้วโรงแรม

ต่อมาพนักงานชายของโรงแรมแห่งหนึ่ง (ไม่ใช่โรงแรมที่เกิดเหตุ) ซึ่งเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ มาแจ้งว่าเมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 65) เวลาประมาณ 12.00 น. เสี่ยอั๋นที่เคยเข้าพักที่โรงแรมเมื่อ 4 กันยายน ที่ผ่านมา ได้ขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์สีขาว มาจอดรถไว้ที่จอดรถและขอยืมรถจักรยานยนต์ของตัวเองไป โดยที่ขณะนี้ยังไม่กลับมาที่รถอีกเลย จนทราบว่าเสี่ยอั๋นได้ยืมรถจักรยานยนต์มาพักที่โรงแรมที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหามีประวัติทางอาชญากรรมรวม 5 คดี และในห้วงเวลาเดียวกันผู้ก่อเหตุได้ไปก่อเหตุยิงปืนอีกครั้งในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งสาเหตุมาจากการหึงหวงน้องชายของภรรยา ซึ่งทั้ง 5 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล แต่นายรุ่งโรจน์อยู่ระหว่างหลบหลบหนีประกันตัวในชั้นศาล จนกระทั้งมาก่อเหตุและถูกจับกุมในครั้งนี้