อัปเดต! จ่าทหารคลั่ง ยิงในตึกกรมยุทธศึกษาทหารบก ตาย 2 เจ็บ 1 ผบ.ตร.เร่งสางคดี
อัปเดต รายงานข่าวด่วน! จ่าทหารคลั่ง สลดทหารยิงทหาร ในตึกกรมยุทธศึกษาทหารบก ตาย 2 เจ็บ 1 ราย ผู้ก่อเหตุคลั่งยศจ่า ประกาศจะยิงให้ครบ 10 คน จับกุมตัวได้แล้ว คาดมีอาการทางจิต ด้าน ผบ.ตร. เร่งสางคดี
(เบื้องต้น) ระทึกเหตุร้ายกลางกรุง ยิงกันในตึก กรมยุทธศึกษาทหารบก ตาย 1 เจ็บ 2 ราย เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เกิดเหตุ ยิงกันภายในตึกกรมยุทธศึกษาทหารบก ภายในวิทยาลัยการทัพบก ถนนเทอดดำริห์ เบื้องต้นถูกยิงที่ศีรษะ 1 รายเสียชีวิต ส่วนอีก 2 รายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ระหว่างนำตัวส่ง รพ.วชิระ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
-
"จ่าคลั่ง" กราดยิงทหารดับ ให้การวกวน ตร.ยังไม่ตัดประเด็นตั้งใจ ขัดแย้ง ป่วย
-
"จ่าคลั่ง" ทหารยิงทหารดับ 2 "ผบช.น." รุดสอบปากคำ - พี่สาวเหยื่อทำใจไม่ได้
-
ทบ.เผย "จ่าคลั่ง"เครียด-ปัญหาสุขภาพ ยิงเพื่อร่วมงานเสียชีวิต 2 นาย
ความคืบหน้าเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยังถืออาวุธปืนอยู่ในที่เกิดเหตุ ประกาศจะยิงให้ครบ 10 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุว่า จ่ายงยุทธ สังกัดโรงเรียนเสนาธิการทหารบก มีอาการคลั่ง
ล่าสุดมีรายงานว่า กำลังพลที่ถูกยิงที่ศีรษะชื่อ จ่าสิบเอก นพรัตน์ เสียชีวิตที่โรงพบาลวชิระ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว
ล่าสุด ผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงในวิทยาลัยการทัพบก
1. จ.ส.อ.นพรัตน์ อินทสุนทร อายุ 58 ปี
2. จ.ส.อ.ประการ สินส่ง
ส่วนผู้บาดเจ็บคือ จ.ส.อ ยงยุทธ์ ปัญญานุวัฒน์
ทั้ง 3 นาย ตำแหน่งเสมียน วทบ.
สำหรับผู้ก่อเหตุคือ จ.ส.อ.ยงยุทธ มังกรกิม อายุ 59 ปี
อัปเดต พบผู้ก่อเหตุเคยประสบอุบัติเหตุ มีอาการทางจิต รักษาตัวแล้ว แต่ยังมีอาการอยู่ ไม่กี่วันก่อนก็มีอาการแต่พูดคุยสงบสติอารมณ์ได้ ล่าสุดยอมมอบตัวแล้ว
หลังเกิดเหตุ พี่สาว จ.ส.อ.นพรัตน์ อินทสุนทร ที่ถูกยิงเสียชีวิต ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกับร่ำไห้ว่า น้องชายตัวเองไม่เคยมีปัญหากับใคร ทำงานดีมาตลอด เหลืออายุราชการอีก 2 ปีจะเกษียณแล้ว
“เมื่อคืนน้องชายเพิ่งโทรศัพท์พูดคุยกันอยู่เลย ตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุ ทำไมน้องชายตัวเองต้องถูกยิง ทำไมผู้ก่อเหตุพกปืนเข้าไปได้ สำหรับผู้ก่อเหตุไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ”
ผบ.ตร. สั่งรวบรวมหลักฐาน สอบสวนตรงไปตรงมาเหตุ
วันที่ 14 กันยายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในพื้นที่ สน.ดุสิต ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันนี้ (14ก.ย. 65) เวลาประมาณ 09.30 น. พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นภายใน วิทยาลัยการทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าทำการระงับเหตุ โดยต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์และควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้และจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ เพื่อทำการรักษา หลังจากนี้พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยาน รวมถึงได้ร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตายประกอบสำนวนการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
เรื่องนี้ทางด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับการปฎิบัติของเจ้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยให้ดำเนินการตามหลักยุทธวิธีคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นสำคัญ รวมถึงให้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน
" ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนกฎหมาย ขอให้ประชาชนในพื้นที่อย่าตื่นตระหนก อีกทั้งเพื่อป้องกันให้สังคมเกิดความสับสนและเสียรูปคดี จึงขอความร่วมมือติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น"