น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มเอ่อล่นตลิ่ง หลังหน่วงน้ำลดผลกระทบท้ายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มเอ่อล่นตลิ่ง หลังหน่วงน้ำลดผลกระทบท้ายน้ำ

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเริ่มเอ่อล่นตลิ่ง หลังมีการหน่วงน้ำไว้เพื่อรักษาระดับการระบายน้ำท้ายเขื่อน

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,976 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.73 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 14.11 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.23 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,874 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุดทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 1,881ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจากสถานการณ์น้ำดังกล่าว ประกอบกับทางกรมชลประทานได้มีการหน่วงน้ำทางด้านเหนือเขื่อนเอาไว้เพื่อป้องกันผลกระทบพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำ จึงส่งผลทำให้ระดับน้ำทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเอ่อล่นตลิ่ง และคันกั้นน้ำ เข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท

โดย นายมนตรี แสงเพ็ชร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลธรรมามูล เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกรมชลประทานได้มีการชะลอการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ทำให้พื้นที่ทางด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในพื้นที่ตำบลธรรมามูลที่มีบางจุดอยู่ในพื้นที่ต่ำทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่บ้างแล้วบางส่วน ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจพบว่าขณะนี้มีจุดที่น้ำจากแม่น้ำไหลเอ่อเข้าท่วมแล้วประมาณ 2-3 จุด ซึ่งส่งผลทำให้มีบ้านเรือนของประชาชนได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 2 หลัง ทางเทศบาลตำบลธรรมามูลก็ได้ทำการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนแล้วในเบื้องต้น นอกจากนี้ทางนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธรรมามูลก็ได้สั่งการไปยังงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลธรรมามูล ให้ออกตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำดังกล่าว

ทางด้านนายคำรณ อิ่มเนย นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดชัยนาทออกประกาศเตือนเรื่องการชะลอน้ำไว้เหนือเขื่อนเจ้าพระยา เป็นการหน่วงน้ำไว้เพื่อรักษาระดับการระบายน้ำท้ายเขื่อน ในปริมาณ 1,800-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อป้องกันพื้นที่ตอนล่างได้รับผลกระทบ จึงจำเป็นต้องมีการหน่วงน้ำไว้ในพื้นที่ตอนเหนือของเขื่อนเจ้าพระยา โดยสำนักงานชลประทานที่ 12 จะบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ระดับไม่เกิน 17.00 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง จะสังเกตได้ว่าขณะนี้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โดยในวันนี้ (14 ก.ย. 65) ตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นมา จนถึงเที่ยงวันมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 7 เซนติเมตร จะส่งผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อาจได้รับผลกระทบบ้าง ทั้งนี้ ช่วงระยะเวลาการหน่วงน้ำคาดว่าไม่นาน หากเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาถึงระดับ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนก็จะลดระดับลง ซึ่งเป็นการบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับน้ำเหนือจากอิทธิพลของมรสุมที่ผ่านผ่านซึ่งจะมีฝนตกจนถึงวันที่ 17 ก.ย.นี้

สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำที่ได้รับผลกระทบจากการหน่วงน้ำ บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา พื้นที่ในเขตอำเภอเมือง โดยเฉพาะตำบลธรรมามูล จากการสำรวจล่าสุดได้รับผลกระทบแล้ว 2 หลังคาเรือน ซึ่งทางพื้นที่โดยนายอำเภอเมืองชัยนาท และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่ดูแลให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพแล้ว ขอเรียนว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นผู้อาศัยอยู่พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ โดยจะได้มีการตรวจสอบตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวนเท่าไร