แม่น้องโชค นักเรียน ม.3 ปืนลั่นใส่เสียชีวิต เดินหน้าทวงความยุติธรรมให้ลูก
แม่น้องโชค นักเรียน ม.3 ที่ถูกปืนลั่นใส่เสียชีวิต บุกโรงพักบางบัวทองเดินหน้าหาความจริง เหตุยังสงสัยในหลายประเด็น จ่อยื่นหนังสือกระทรวงยุติธรรม
วันที่ 17 กันยายน 2565 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.ปวีณา อายุ 35 ปี แม่น้องโชค นักเรียน ม.3 ที่ถูกปืนลั่นใส่เสียชีวิต เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผกก.สภ.บางบัวทอง เพื่อสอบถามผลการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุ และให้แม่น้องโชคให้การในฐานะผู้เสียหายซึ่งจะได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 44/1
โดย น.ส.ปวีณา แม่น้องโชค กล่าวว่า วันนี้ตนอยากมาหาความจริงกับคดีน้องโชคเลยพาคุณทนายมาเป็นผู้หาคำตอบให้ ตนที่สงสัยในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการทำคดี เรื่องปืนที่เป็นข่าวได้ตรวจเขม่าในบริเวณแวดล้อม วิถีกระสุนที่บอกว่าปืนลั่นนั้นมาทิศทางไหน ตนอยากได้ความชัดเจนที่สุด เพราะไม่เชื่อว่าเป็นเหตุปืนลั่น
"วันนี้มาเพื่อหาความจริงและทวงความยุติธรรมให้ลูก น้องโชคเป็นคนร่าเริง เพื่อนลูกบางคนที่ตนรู้จักเป็นเด็กกิจกรรม ไปเต้นด้วยกัน ตนไม่ทราบว่าลูกเป็นเพื่อนกับต้ามั้ย เพราะเขามองว่าทุกคนคือเพื่อน ตนก็เชื่อว่าลูกตนเป็นคนดีคนนึง และตนไม่เชื่อที่ต้าพูดว่าเป็นเพื่อนสนิทกับโชค ในเรื่องคดีได้ให้คุณทนายเข้ามาดูแล และอยากได้รับความจริงมากที่สุด ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
ตนยังไม่ได้รับคำอธิบายเรื่องวิถีกระสุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้ตำรวจสรุปคดีไปแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนได้ข้อมูลมาว่าไม่ใช่ ทำไมอยู่ ๆ มาสรุป ลูกตนเป็นผู้เสียหาย และตนต้องมาเสียลูกไป เบื้องต้นได้สอบปากคำแค่คร่าว ๆ กระบวนการกฎหมายของประเทศเราต้องมีความยุติธรรม ไม่ใช่แค่ตนที่รู้สึกขัดแย้ง ทั้งคนเป็นญาติ เป็นเพื่อน คนรอบ ๆ ข้างทุกคนข้องใจกันหมด ถ้ารู้สึกว่าลูกตนไม่ได้รับความยุติธรรมก็คงต้องไปยื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรม"
ทางด้าน ทนายโป้ง กล่าวว่า ทั้งเพื่อนน้องโชค ครู และตำรวจตั้งแต่ผู้การฯจังหวัด ผู้กำกับ แต่ละคนให้ข้อมูลไม่ตรงกัน ซึ่งทางคุณแม่ไม่เชื่อว่าสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมากับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานค่อนข้างขัดแย้ง ด้วยนิสัยของลูกเขาไม่น่าจะมาถึงจุดนี้ ซึ่งตนคุยกับคุณแม่ทั้งคืน และประมวลดูแล้วเขา 2 คน ทั้งน้องโชคกับคู่กรณีไม่น่าจะเป็นเพื่อนรักกันอย่างที่เป็นข่าว
ทนายโป้ง กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือพิสูจน์หลักฐานไม่พูดอะไรเลย สภาพศพที่คุณแม่เจอ ญาติเจอ มันขัดแย้งข้อเท็จจริง วิถีกระสุนเป็นแนวขึ้นไม่กดลง ไม่น่าจะปืนลั่น ชาวบ้านยังสงสัยว่าสิ่งที่ตำรวจพูดมันเป็นยังไง วันนี้ตนเลยนัดหมายผู้กำกับและรองผู้กำกับฝ่ายสอบสวนว่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงยังไง คุณแม่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลยทั้งที่เป็นผู้เสียหาย
ข่าวโดย สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ จ.นนทบุรี