หิ้วทำแผน "พ่อโหด" ฆ่าอำพรางศพลูกชาย 6 วัยขวบ โยนศพทิ้งท่าทรายแม่น้ำปิง
หิ้วทำแผน "พ่อโหด" ฆ่าอำพรางศพลูกชาย 6 วัยขวบ โยนร่างทิ้งท่าทรายแม่น้ำปิง วันนี้รับศพจาก รพ. ตั้งบำเพ็ญกุศลวัดพรหมประดิษฐ์ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
ความคืบหน้าคดี "พ่อโหด" ฆ่าอำพรางศพลูกชายวัย 6 ขวบ โดยเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (20 กันยายน 2565) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามพ่อค้าร้านอาหารตามสั่งที่อยู่หน้าซอยห้องเช่าที่เกิดเหตุ จึงทราบว่าก่อนที่จะเสียชีวิต "น้องนิค" (ผู้ตาย) วัย 6 ขวบ และ "น้องไนท์" วัย 5 ขวบ (น้องชายคนเล็ก) ได้เดินมากัน 2 คน และมาบอกกับพ่อค้าร้านอาหารตามสั่งว่าจะไปหาแม่ที่ทำงาน และมาขอข้าวกินโดยพูดว่า "หนูขอข้าวกินหน่อย หนูหิว" ซึ่งสภาพการแต่งตัวดูมอมแมม และที่เห็นล่าสุดก็มากินข้าวที่ร้านกับแม่จากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย มารู้อีกทีก็เกิดเหตุสลดดังกล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.กิตติยา หรือ โบ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของแม่เด็ก (คนที่ไปแจ้งความ) เล่าว่า ตนและแม่ของน้องนิค (ผู้ตาย) เป็นเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานเดียวกัน ที่ผ่านมาตนมักจะมาเล่นกับน้องนิคและน้องไนท์อยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน โดยช่วยกันดูแลหาข้าวหาน้ำให้กิน จนกระทั่งวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ตนไม่เห็นน้องนิคจึงถามกับนายบอล (พ่อของเด็ก) ว่า "น้องนิคไปหายไปไหน"
ซึ่งนายบอลบอกว่า ก่อนจะออกมาทำงานในช่วงเช้ายังเห็นเด็กทั้งสองคนนอนอยู่ในบ้าน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งในช่วงเย็นก็ยังไม่เห็นน้องนิค จึงได้เข้าไปดูที่บ้านและพบกับน้องไนท์ โดยน้องไนซ์บอกตนว่า พ่อซ้อมพี่นิค พ่อจับพี่นิคทุ่มพื้น และพาตนเข้าไปดูรอยเลือดบนที่นอนและหมอนที่มีผ้าห่มปิดคลุมไว้ จึงทำให้ตนคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับน้องนิค จึงได้รีบเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 19 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา
น.ส.กิตติยา หรือ โบ เผยอีกว่า ที่ผ่านมานายบอลมีพฤติกรรมชอบทำร้ายร่างกายภรรยาและลูกอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนมักจะเป็นคนคอยห้ามปรามอยู่เสมอ แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำรุนแรงจนกระทั่งเสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่นายบอลลงมือทำร้ายร่างกายน้องนิคจนเสียชีวิตนั้น ตนคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดที่ภรรยาบอกเลิกแล้วหนีไป เพราะตั้งแต่ภรรยาไม่อยู่นายบอลก็ดื่มเหล้าเมาทุกวัน จึงอาจจะเป็นปมเหตุให้พลั้งมือซ้อมลูกจนถึงแก่ความตาย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้พูดคุยกับ น.ส.แก้วตา อายุ 30 ปี ชาว ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร (ที่เป็นแม่ของเด็กที่ไปบอกพ่อน้องนิคว่าทำลูกตนเองฟันหัก) โดย น.ส.แก้วตา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในวันที่ 17 กันยายน 2565 ตนได้บอกกับนายบอลว่าน้องนิคเล่นกับลูกชายของตนจนทำให้ลูกตนฟันหัก อยากให้นายบอลช่วยว่ากล่าวตักเตือนน้องนิคด้วย แต่ตนไม่ได้โกรธเคืองอะไร เพียงแค่ให้ช่วยตักเตือนเท่านั้น ตนไม่คาดคิดมาก่อนว่านายบอลจะทำรุนแรงกับลูกจนเสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมานายบอลต้องออกไปทำงานขับรถเกี่ยวข้าว ตนก็ช่วยดูแลหาข้าวหาน้ำให้เด็กทั้งสองคนกินอยู่เป็นประจำ และเรื่องที่ลูกของตนฟันหักก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร ตนเข้าใจดีว่าเด็กผู้ชายเล่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรศพของน้องนิค เด็กชายวัย 6 ขวบ ที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ขณะที่ผู้เป็นแม่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้เนื่องจากยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกและกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองขลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ควบคุมตัวพ่อโหด อายุ 33 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในห้องเช่า หมู่ที่ 2 ตำบลท่ามะเขือ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐาน พฤติกรรมการทำร้าย และ DNA ผู้ก่อเหตุไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา "ทำร้ายผู้อื่นโดยทรมานทรมาน หรือกระทำทารุณโหดร้ายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย"
ทั้งนี้พฤติกรรมผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ได้ทำร้ายร่างกายลูกชายจนเสียชีวิต แล้วนำร่างขึ้นรถจักรยานยนต์มาทิ้งในแม่น้ำปิง ส่วนร่างของน้องนิคกำลังรับร่างจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพรหมประดิษฐ์ ตำบลแม่ลาด อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ต่อไป
ข่าวภาพโดย พิพัฒน์ จงมีความสุข จ.กำแพงเพชร