พิษพายุ "โนรู" อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

พิษพายุ "โนรู" อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จากฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา อิทธิพลพายุโซนร้อน "โนรู"

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 65 จากสถานการณ์ฝนตกหนักบนยอดภูหลายแห่งโดยเฉพาะยอดภู ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงตั้งแต่กลางคืนที่ผ่านมาจนขณะนี้ฝนยังตกต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่พื้นที่ด้านล่างของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงและที่อยู่ตอนต้นของแม่น้ำพอง นายอดิสร เหมทานน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้ประชุมและปล่อยชุดพนักงาน เจ้าหน้าที่ฯร่วมออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเตรียมความพร้อมของชุดกู้ภัยอุทยานแห่งชาติ นำอุปกรณ์กู้ภัย ยานพาหนะ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบพิบัติภัย และประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ใกล้ลำน้ำพองเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และแจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่ได้รับทราบข้อมูล ทุก 1 ชั่วโมง ให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์

สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลหลากครั้งนี้ คือ บ้านห้วยเดื่อและบ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย อยู่ระหว่างการสำรวจน่าจะกว่า 30 หลังคาเรือน โดยน้ำป่าไหลหลากทะลักเข้าท่วมถนน พื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร โรงเรียนและวัด

นอกจากที่ อ.ภูกระดึงแล้ว บ้านสงป่าเปลือย หมู่ 6 ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง และ ดินถล่มในพื้นที่ ต.อิปุ่ม อ.ด่านซ้าย เจ้าหน้าที่งานป้องกัน อบต.อิปุ่ม เข้าเคลียร์ผิวการจราจร
 

ฝนตกหนักทำให้น้ำจากลำน้ำแม่ท่าช้างไหลเข้าท่วมถนนเชียงใหม่-ฮอด อำเภอหางดง จนต้องปิดการจราจร ขณะที่พื้นที่ลุ่มต่ำในตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มคลี่คลาย

พื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ช่วงบ้านช่างคำ หมู่ 4 ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง ซึ่งเป็นถนนเส้นทางหลักในการเดินทางไปอำเภอโซนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร ส่งผลให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้

ทำให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลบ้านแหวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จราจร สภ.หางดง ได้นำแผงเหล็กกั้น ตั้งแต่แยกท้าวบุญเรือง ไปจนถึงปั๊มน้ำมันปตท.หางดง เป็นระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้รถยนต์ผ่านเข้าออกอพร้อมทั้งเร่งระบายรถที่ค้างอยู่บนถนน และชาวบ้าน ได้เร่งนำกระสอบทราย มาทำเป็นแนวกั้นเพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าบ้านเรือน

ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำท่วมขัง อย่างชุมชนศรีปิงเมือง และตลาดประตูก้อม ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ล่าสุดน้ำลดกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว

นายอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินการเปิดเครื่องสูบน้ำให้ระบายออกคลองแม่ข่า ลงสู่แม่น้ำปิงให้ ลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่แผนป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ซ้ำซากได้วางแผน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันน้ำที่ไหลมาจากดอยสุเทพเข้าตัวเมือง ขณะที่กันก็ต้องจัดการระบบท่อให้ น้ำไหลผ่านได้เร็วที่สุด

ลำน้ำเสียว ได้รับน้ำจากแม่น้ำชี ไหลพัดถนนคันไดส์5 เส้นทางราษีไศล - อำเภอศิลาลาด ขาดการติดต่อ ชลประทานจังหวัดเร่งประสานแจ้งเตือน ขณะที่ฝนตกหนักซ้ำมาอีกในบ่ายวันนี้ เต้นท์พักพิงต้องทนหนาว

พื้นที่ จ.ศรีสะเกษ กระแสน้ำจากลำน้ำเสียว ที่ไหลมาจากแม่น้ำชี จากจังหวัดยโสธร ไหลผ่านอำเภอศิลาลาด เพื่อไหลมาลงแม่น้ำมูล ที่เขื่อนราษีไศล แต่ด้วยกระแสน้ำที่มีในปริมาณที่มาก และไหลแรง ทำให้ไหลพัดเอาถนนลาดยาง เส้นราษีไศล ที่ไปยังอำเภอศิลาลาด ที่กรมชลประทานสร้างเป็นคันกั้นน้ำไม่ไหลท่วมพื้นที่ตำบลด่าน และตำบลใกล้เคียง ถูกกระแสน้ำไหลพัดจนทำให้ถนนขาด เป็นระยะทางยาวกว่า 30 เมตร พี่น้องประชาชนที่เคยใช้เส้นทางสัญจรต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นแทน โดยภาพมุมสูงจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มวลน้ำที่ไหลมาจากน้ำลำเสียว มีปริมาณที่มาก และกำลังไหลเข้าสู่แม่น้ำมูล เขื่อนราษีไศล ซึ่งจะส่งผลให้แม่น้ำมูลไหลลงไปสู่แม่น้ำโขงที่จังหวัดอุบลราชธานี ไหลได้ล่าช้าขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำหนุนขึ้นมาท่วมตัวเมืองศรีสะเกษ ในลำน้ำห้วยสำราญ ซึ่งขณะนี้เวลา 14.30 น.ระดับน้ำที่วัดได้ที่สะพานขาว จุดวัด M9 ระดับน้ำอยู่ที่ 10.57 เมตรแล้ว นั้นหมายความว่า ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จะถูกน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง โดยโครงการชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้แจ้งเตือนประชาชนทุกระยะ พร้อมมีรถยนต์ไปประกาศในชุมชนที่เสี่ยงภัยถูกน้ำท่วม ได้อพยพข้าวของออกมาจากบ้านก่อนน้ำท่วมถึงด้วย

ส่วนอีกแห่งที่กำลังถูกน้ำท่วมหนักมา 5 วันนี้แล้ว ก็คือ ที่หมู่บ้านอะลาง หมู่บ้านโปร่งสามัคคี ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งนอกจากจะมีฝนตกลงมาตลอดระยะเวลา เกือบ 10 วันแล้ว ยังมีมวลน้ำจำนวนมาก ไหลล้นสปริงเวย์ของอ่างเก็บน้ำที่อยู่แถบชายแดน อันได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู, อ่างเก็บน้ำห้วยตาจู, อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ และอ่างเก็บนิคมน้ำห้วยคล้า ซึ่งน้ำก็จะไหลแตกกระจายล้มลำห้วยสำราญ, ลำห้วยวะ และลำห้วยทับทัน ไหลมาลงที่ตัวอำเภอเมือง โดยกำลังไหลผ่านตัวอำเภออุทุมพรพิสัย ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรเป็นจำนวนมาก พร้อมวัดป่าพิมลมังคลาราม บ้านโนนแดง - โนนม่วง ก็ถูกน้ำท่วม ถูกตัดขาดจากญาติโยมที่จะไปวัดด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังรอความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายอยู่ ชาวบ้านได้เพียงการอพยพขึ้นมาพักพิงอยู่ภายในเต้นท์ที่ทางเทศบาลจัดหามาให้ แต่เมื่อฝนตกก็จะต้องทนหนาว เปียกฝนกัน ทั้งผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ลูกเด็ก เปียกกันทุกวัน ทุกคืน เพราะไม่มีฝาผนังปิดกั้นกันฝนแต่อย่างใด รวมทั้งปศุสัตว์ ฝูงวัว ก็ต้องปล่อยไว้อยู่ริมถนนใกล้ที่พักพิงของคนเช่นกัน