ชลประทาน เร่งระบายน้ำรับมือ "พายุโนรู" ท้ายอ่างเกิดน้ำท่วมแล้วหลายแห่ง

ชลประทาน เร่งระบายน้ำรับมือ "พายุโนรู" ท้ายอ่างเกิดน้ำท่วมแล้วหลายแห่ง

ฝนกระหน่ำ จ.สุรินทร์ น้ำท่วมทั่วทั้งเขตเทศบาล ต้องปิดโรงเรียนที่อยู่ในเขตเทศบาล 1 วัน เพื่อดูสถานการณ์ - ชลประทานสุรินทร์ เฝ้าระวังเข้มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ รับมือ "พายุโนรู" พร้อมแจ้งเตือนชาวบ้านท้ายอ่างระวังน้ำท่วม ซึ่งมีพื้นที่ท้ายอ่างเกิดน้ำท่วมแล้วหลายแห่ง

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 65 ที่จังหวัดสุรินทร์ ยังคงเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลของมรสุมที่พัดผ่าน ส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมา ฝนตกหนักในตัวเมืองสุรินทร์เป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ในเขตเทศบาลบาลเมืองเกิดน้ำท่วมขังรอการระบายทั่วทั้งเขตเทศบาล บางจุดน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่งถนน รวมไปถึงในสถานศึกษา โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งระบายน้ำออกอย่างเต็มที่และเข้าสู่ปกติในช่วงเช้านี้ จากผลที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่และแม้ว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งทางโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ทั้งโรงเรียนระดับประถมและโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ทั้งหมด ต้องสั่งปิดการเรียนฉุกเฉิน 1 วัน วันนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรของสถานศึกษา รวมถึงความสะดวกของนักเรียนที่มาเรียนหนังสือ โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นวันต่อวัน ก่อนที่จตะกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง
 

ในขณะเดียวกันจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่จะหวัดสุรินทร์ทั้ง 17 แห่ง มีปริมาณเกินความจุแล้วถึง 14 แห่ง ทางด้านโครงการชลประทานต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด รวมไปถึงการรับมือกับพายุโนรูที่จะเข้าประเทศไทยในเร็ววันนี้ โดยเฉพาะการเร่งพร่องน้ำออกจากอ่าง เพื่อรองรับกับปริมาณฝนที่จะตกลงมาจากผลของพายุ พร้อมกันนี้ยังได้มีการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ท้ายอ่าง โดยประสานกับผู้นำชุมชนให้แจ้งประชาชนได้รับทราบ และป้องกันน้ำที่อาจจะไหลเข้าท่วม บ้านเรือนและไร่นาชาวบ้าน

ในขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ที่ตำบลเฉนียง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำเกินความจุที่ร้อยละ 130 เปอร์เซน จากความจุทั้งหมด 21 ล้านลูกบาศก์เมตร ทางโครงการชลประทานสุรินทร์ ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 2 บานเพื่อระบายน้ำออกวันละ 1 ล้าน 2 แสนลุกบาศเมตรต่อวัน เพื่อรักษาระดับน้ำและรองรับปริมาณฝนที่จะเกิดจากพายุโนรูที่จะเข้ามาในประเทศไทย ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าท่วมไร่นาชาวบ้านและหมู่บ้านบางแห่งที่อยู่ติดกับลำห้วยเสนงแล้วในหลายตำบล ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำชีและไหลไปยังแม่น้ำมูลต่อไป
 

ด้านนายสมชาย อังศิริลาวัลย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุรินทร์ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า จากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายวันที่ผ่านมา เป็นผลมาจากร่องมรสุมที่พาสผ่าน ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เต็มความจุแล้ว 14 อ่าง จากทั้งหมด 17 อ่าง และทุกอ่างฯ ตัวเขื่อน และอาคารชลประทานต่างฯ มีความปลอดภัยสามารถใช้งานได้ตามปกติ ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง จังหวัดสุรินทร์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำเกินความจุร้อยละ 130 ล้าน ลบ.ม. โดยอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงมีปริมาณความจุที่ระดับกักเก็บน้ำ 21.96 ล้าน ลบ.ม. จึงได้ระบายน้ำออกวันละ 1.2 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้แจ้งให้ชาวบ้านที่อยู่ที่ลุ่มติดลำห้วยท้ายอ่าง ที่จะได้รับผลกระทบจากการพร่องน้ำให้เตรียมรับมือย้ายสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์การเกษตรไว้ในที่สูง และก็มีพื้นที่บางแห่งเกิดน้ำท่วมแล้วบางแห่ง ประกอบด้วย ตำบลเฉนียง , นอกเมือง, แกใหญ่ และตำบลท่าสว่าง (เฉพาะหมู่บ้านที่ติดลำห้วยที่ทางน้ำไหลผ่าน) เนื่องจากช่วงนี้ชลประทานจะพร่องออกเพื่อให้อ่างฯมีพื้นที่ว่าง และเพื่อรับมือกับพายุโนรู ที่จะเข้ามาในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ขณะที่สถานการณ์น้ำของแม่น้ำมูล เมีปริมาณสูงขึ้น จากมวลน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมาและบางส่วนจากจังหวัดมหาสารคาม บางพื้นที่ล้นตลิ่งเกิน 1 เมตร ส่งผลทำให้พื้นที่การเกษตรที่อยู่ติดแม่น้ำมูลได้รับผลกระทบหลายพันไร่ มีอำเภอชุมพลบุรี , ท่าตูม ซึ่งทางชลประทานสุรินทร์ ได้สั่งเปิดประตูระบายน้ำกั้นแม่น้ำมูลทั้งสองแห่ง ประกอบด้วย ฝายราศีไศลและหัวนา อ.ราศีไศล จ.ศรีษะเกษ แล้ว