กรมชลประทาน ปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รับมือพายุ "โนรู"
รับมือพายุโนรู กรมชลประทาน ทยอยปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,200 ลบ.ม./วินาที พร้อมเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด
กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ (28 กันยายน 2565) เมื่อเวลา 08.00 น. ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,363 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.91 เมตร แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก่อนปริมาณน้ำนี้จะไหลไปรวมกับน้ำที่มาจากเเม่น้ำสะแกกรังผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จ.อุทัยธานี วัดได้ 231 ลบ.ม./วินาที ส่วนพื้นที่ตอนล่างที่สถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,738 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พายุไต้ฝุ่น "โนรู" ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่งผลปริมาณน้ำฝน น้ำท่า ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน ได้ทยอยปรับการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,200 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันนี้ (28 กันยายน 2565) โดยได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทาน เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตาม 13 มาตรการ รับมือฤดูฝนปี 2565 ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด จึงขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หรือโทร.สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา