คาด "น้ำท่วมเชียงใหม่" รุนแรงน้อยกว่าปี 54
ศูนย์วิจัยด้านการจัดการภัยพิบัติฯ มช. ทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัย "น้ำท่วมเชียงใหม่" เผย 5 โซนเสี่ยงน้ำท่วม หลังระดับน้ำปิงสูงเกินจุดวิกฤติ-แนวเสริมพนังกั้น คาดระดับน้ำปีนี้สูงสุด 4.6 เมตร เทียบกับปี 54 รุนแรงน้อยกว่า ชี้อาจใช้เวลา 2-3วัน กลับสู่ภาวะปกติ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 3 ต.ค.65 รศ.ชูโชค อายุพงศ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากสถานการณ์ระดับน้ำปิง สถานนีP1 สะพานนวรัฐ สูงเกินจุดวิกฤต 3.70 เมตร ทางศูนย์ฯ ได้เผยแพร่ภาพแผนที่พื้นที่เสี่ยงภัย "น้ำท่วมเชียงใหม่" ลงเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์วิจัยด้านการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ มช. เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับมือกับสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้น และคาดว่าน้ำปิงจะล้นเข้ามาท่วมจุดเสี่ยง ทั้ง 5 โซนของจังหวัดเชียงใหม่ คือ
- โซน 1 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.70 เมตร บ้านป้าพร้าวนอก (บางส่วน) ร้านอาหารท่าน้ำ ร้านอาหารระเบียงฝั่งปิง ทางลอดใต้สะพานบำแดด
- โซน 2 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.4 เมตร ถนนเจริญประเทศ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม โรงเรียนพระหฤทัย สมาคมฝรั่งเศสเชียงใหม่ วัดชัยมงคล หมู่บ้านเวียงทอง
- โซน 3 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +4.0 เมตร บ้านเด่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ (บ้านเด่น) หมู่บ้านจินดานิเวศน์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- โซน 4 ระดับที่สะพานนวรัฐ +4.1 เมตร วัดท่าสะต๋อย ตลาดทองคำ ค่ายกาวิละ ตลาดสันป่าข่อย
- โซน 5 ระดับที่สะพานนวรัฐ +4.20 เมตร ตลาดหนองหอย โรงเรียนมงฟอร์ต โรงเรียนกาวิละ หมู่บ้านปาล์มสปริงส์โซน b ระตับที่สะพานนรัฐ +4.30 เมตร ถนนช้างคลาน ไนท์บาร์ซาร์ แยกแสงตะวันวัดหัวฝาย ซึ่งทั้ง 5 โซนนี้ ทางประชาชนในพื้นที่รับทราบข้อมูลความเสี่ยงกันอยู่แล้ว แต่แผนที่ทำขึ้นมา จะช่วยให้ทุกภาคฝ่ายมีข้อมูลในการทำงานแก้ไขปัญหาแจ้งเตือนกันได้ชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ หากประเมินแล้วคาดว่าสถานการณ์ "น้ำท่วมเชียงใหม่" ในปีนี้ความรุนแรงจะน้อยกว่าปี 2554 โดยครั้งนั้นระดับน้ำปิงอยู่ที่ 4.9 เมตร ขณะที่ล่าสุดของปีนี้ เมื่อเวลา 07.00น. สถานี P.1 สะพานนวรัฐ ระดับน้ำ 4.43 เมตร (สูงกว่าระดับวิกฤติ 0.73 เมตร) ซึ่งมีแนวโน้มว่าปีนี้จะสูงสุดอยู่ที่ 4.5-4.6เมตร เนื่องจากประเมินสถานีน้ำตอนบนน้ำไม่มาก แต่เมื่อน้ำไหลมาสบทบกับแม่น้ำปิงที่มีอยู่มาก จึงเกิดการยกระดับน้ำสูงขึ้น คาดว่าน้ำจะท่วมในพื้นที่เสี่ยงไม่เกิน 2-3 วัน
"ขณะนี้ถือว่าทุกภาคส่วนจังหวัดเชียงใหม่สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำปิงได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากเทียบกับ 11 ปีก่อน น้ำน่าจะทะลักเข้าหลายพื้นที่แล้ว แต่ปีนี้จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า โดยทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ่ได้เสริมแนวพนังกั้นน้ำ รวมถึงปิดจุดน้ำขึ้น เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่การปิดอาจจะมีรอยรั่วอยู่บ้างหางแรงดันน้ำสูง ซึ่งพบรอยรั่วก็จะเร่งสูบน้ำออกทันที ซึ่งทั้งหมดสามารถรับน้ำได้ถึง 4.2 เมตร และทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีมาตรการในการบริการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด" รศ.ชูโชค กล่าว