เช็กด่วน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตรวจสอบสถานะล่าสุด อัปเดตที่นี่ครบจบ
แจ้งข่าวสารข้อมูลประชาชน ผู้ลงทะเบียน ผ่าน-ไม่ผ่าน เช็กด่วน สิทธิ์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ตรวจสอบสถานะล่าสุด อัปเดตที่นี่ครบจบ
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ตอนนี้คาดมีคนลงทะเบียนแล้วใกล้ทะลุ 20 ล้านราย ผู้ลงทะเบียน ผ่าน-ไม่ผ่าน เช็กสิทธิ์ ตรวจสอบสถานะล่าสุดกันอย่างต่อเนื่อง ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานใดก็สามารถไปเช็กสถานะผู้ลงทะเบียนได้ทุกวันศุกร์ ส่วนกรณีไม่สะดวกเดินทาง เช็กง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน หรือผ่านอินเทอร์เน็ต
- ตรวจสอบสถานะแบบออนไลน์ ได้ที่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของกระทรวงการคลัง
- หากยังไม่ลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ถึง 19 ตุลาคม 2565 คลิกที่ โครงการลงทะเบียนเพื่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
-
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ล่าสุด ขยายเวลารับลงทะเบียน เช็กเลยที่นี่
-
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ติดต่อคู่สมรสไม่ได้ ต้องทำยังไง
-
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ลงทะเบียนแล้ว สำคัญมาก ขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติ
-
แนวทางแก้ไขปัญหา "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" มีกลุ่มไหนบ้างเช็กเลย!
บางคนยังไม่รู้ว่า สิทธิผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดิมมีอะไรบ้าง ซึ่งผู้ถือบัตรคนจนยังได้รับสิทธิ อย่าง เดือนตุลาคม 2565 ได้แก่
- วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 200-300 บาทต่อเดือน โครงการเพิ่มกำลังซื้อ คนละ 200 บาทต่อเดือน
- วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรคนจนทั่วไป 100 บาท ต่อเดือนเป็นเวลา3 เดือน
- วงเงินซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับร้านค้า หาบเร่ แผงลอย100 บาทต่อเดือนเป็นเวลา3เดือน
- ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกัน 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรี
- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เว้นแต่กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าเองทั้งหมด
- ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน
- กรณีใช้น้ำประปา เกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท จะได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท โดยส่วนเกินต้องชำระเอง เว้นแต่กรณีใช้น้ำประปา เกิน 315 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาเองทั้งหมด
รัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรีได้ขยายระยะเวลาไปถึง 7 เดือน คือตั้งแต่ตุลาคม 2565 - เมษายน 2566
การเปิดรับลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ความคืบหน้า ตั้งแต่วันที่ 5 - 30 กันยายน 2565 ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 19,381,909 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,760,916 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 9,620,993 ราย
ผู้ที่ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” มีจำนวนทั้งสิ้น 14,003,943 ราย และเมื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองแล้ว พบว่า มีผู้ผ่านการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 12,519,900 ราย โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวเมื่อตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนจะพบข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ซึ่งผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ในช่วงนี้ โดยขอให้รอผลการตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ซึ่งจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนในช่วงเดือนมกราคม 2566
ผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครอง มีจำนวนทั้งสิ้น 1,484,043 ราย
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่มี “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต หากพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องขอให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง หรือหากพบว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เช่น จำนวนบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีจำนวนมากกว่าข้อมูลบุตรที่ลงทะเบียนไว้ เป็นต้น ให้ติดต่อแก้ไข โดยหากเป็นผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้เท่านั้น และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2565
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 23 – 29 กันยายน 2565 และมีสถานะการลงทะเบียนแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” หรือผู้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 5 – 22 กันยายน 2565 ที่มี “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” และได้ดำเนินการแก้ไขข้อมูลแล้วตั้งแต่วันที่ 23 – 29 กันยายน 2565 สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์หรือให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบโดยกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด
ที่มา - กระทรวงการคลัง และ รัฐบาลไทย