เปิดไทม์ไลน์เหตุสะเทือนขวัญ อดีตตำรวจคลั่ง "กราดยิงหนองบัวลำภู"

ความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.ปัญญา คำราบ อดีตตำรวจคลั่ง "กราดยิงหนองบัวลำภู" ภายในห้องเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิต 36 ราย เป็น ผู้ใหญ่ 12 ราย เด็ก 24 ราย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 คนอาการสาหัส 8 คน

โดยหลังก่อเหตุ ส.ต.ท.ปัญญา คำราบ ได้ขับรถหลบหนีไป ก่อนจะพบว่า ได้เผารถและใช้ปืนสั้น ปิดชีพของตัวเอง รวมถึงภรรยาและลูก ภายในบ้านพักไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ

 

ไทม์ไลน์เหตุการณ์ระทึกขวัญ อดีตตำรวจคลั่ง "กราดยิงหนองบัวลำภู" 

เวลาประมาณ 12.50 น. คนร้ายคลั่งใช้อาวุธปืนและมีด ทำร้ายครูและนักเรียนภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตประมาณ 26 ราย เป็นเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 23 ราย ครูผู้ดูแลเด็ก จำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่ อบต.อุทัยสวรรค์ จำนวน 1 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกติดตามจับกุมตัว 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• เปิดประวัติ อดีตตร.คลั่ง "กราดยิงหนองบัวลำภู" พบติดยาตั้งแต่มัธยม
• อัปเดต คนร้ายเหตุ "กราดยิงหนองบัวลำภู" ปลิดชีพตัวเองพร้อมลูกเมีย
• ด่วน! กราดยิงในศูนย์เด็ก ที่หนองบัวลำภู เด็กผู้ใหญ่เสียชีวิตบาดเจ็บ 36 ราย

เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง พร้อมสั่งการทุกหน่วยให้เร่งล่าคนร้าย "กราดยิงหนองบัวลำภู" 

เวลา 15.00 น. มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุ ส.ต.ท.ปัญญา คำราบ ผู้ก่อเหตุ ได้ใช้อาวุธปืน ยิงตัวเสียชีวิต พร้อมภรรยาและลูก รวม 3 ศพ

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวแสดงความเสียใจ ภายหลังเกิดเหตุคนร้าย "กราดยิงหนองบัวลำภู" ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่เด็กต้องมาเสียชีวิต และในพื้นที่ได้มีคำสั่งปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้งหมดแล้ว

ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 8 กรณีเหตุกราดยิง ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ และสั่งการให้ส่งทีมสุขภาพจิตลงพื้นที่ ดูแลสภาพจิตใจผู้เสียหายแล้ว

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ "กราดยิงหนองบัวลำภู" ดังกล่าวว่า เป็นความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกราย รวมถึงผู้บาดเจ็บ และขอเตือนถึงผู้ใช้สังคมออนไลน์ โซเชียล กรุณางดแชร์ภาพ คลิปวีดีโอ เหตุการณ์ดังกล่าว กรุณาเข้าใจถึงความรู้สึกของครอบครัว ผู้ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เหตุความรุนแรงในลักษณะนี้ มักก่อให้เกิดความโกรธแค้น ความโศกเศร้า ความกลัว และความวิตกกังวล ต่อประชาชนในพื้นที่ และประชาชนที่ได้รับข่าวสาร แต่การนำเสนอ หรือส่งต่อภาพความรุนแรง ที่เกินความจำเป็นนั้น ไม่มีประโยชน์ใดต่อสังคมโดยรวม ทั้งยังทำให้เกิดผลกระทบ ด้านสุขภาพจิตต่อสังคมได้ในวงกว้าง โดยอาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ เกิดความกังวลในการใช้ชีวิตประจำวัน คนที่กำลังเครียด หรือมีปัญหาด้านสุขภาพจิตอยู่ อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้น เมื่อเห็นภาพที่มีความรุนแรงซ้ำๆ

นอกจากนี้การนำเสนอ หรือส่งต่อภาพผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ยังเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และส่งผลกระทบด้านจิตใจ ต่อญาติและคนรอบข้าง ของผู้ที่ได้รับผลกระทบได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นขอให้ประชาชน เป็นกำลังใจกับการทำงาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกันใช้สื่อโซเชียลในเชิงบวก หรือใช้สนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ระมัดระวังการใช้หรือติดตามสื่อโซเชียล รวมถึงงดการส่งต่อภาพผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรง ดูแลและให้คำแนะนำบุตรหลานและเยาวชน ที่สามารถเข้าถึงภาพความรุนแรงต่าง ๆ ได้ ดูแลและประเมินสภาพจิตใจของตนเอง และคนรอบข้างที่ได้รับชมภาพความรุนแรง