น้ำชีทะลักเซาะคันดิน 5 จุด ชลประทานเร่งซ่อมแซม

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 65 ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 2391 บ้านเขื่อน -กู่ทอง ช่วงบ้านปลาปัด ถึงบ้านสำโรง ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง ชลประทาน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น นำรถแบ็คโฮเข้าพื้นที่ เพื่อเร่งปิดกั้นทางน้ำ ภายหลังจากน้ำจากแม่น้ำชีเพิ่มระดับสูงขึ้นจนล้นถนน ไหลพาดผ่านถนน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำดินมาลงที่ระดับความสูงกว่า 1.30 เมตร เพื่อกั้นทางน้ำไม่ให้ไหลผ่านถนน ลงสู่พื้นที่การเกษตร และให้รถสามารถใช้เส้นทางได้ แต่น้ำชีก็ได้กัดเซาะคันดินจนขาดถึง 5 จุด โดยจุดที่ยาวที่สุดคันดินขาดประมาณ 30 เมตร น้ำทะลักข้ามถนน น้ำไหลแรง ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำงาน ซึ่งหากไม่สามารถปิดกั้นน้ำได้ จะส่งผลกระทบในพื้นที่ตำบลยางท่าแจ้ง ตำบลหนองบัว อำเภอโกสุมพิสัย และตำบลเหล่าบัวบานในอำเภอเชียงยืน
 

นายอมรรัตน์ โอรักษ์ กำนันตำบลยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย เปิดเผยว่า ระดับแม่น้ำชีได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนระดับน้ำสูงเทียบเท่าถนน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำดินมาถมทำให้คันกั้นน้ำ ความสูงประมาณ 1.30 เมตร ตั้งแต่บ้านปลาปัด ถึงบ้านสำโรง ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อให้ชาวบ้านยังสามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ และมีชาวบ้านบางส่วนที่อพยพมาอยู่ศูนย์พักพิงริมถนน ขณะนี้ระดับน้ำสูงกว่าระดับถนนแล้ว น้ำบางช่วงได้กัดเซาะทำให้คันดินขาด เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา และยังไม่สามารถบอกได้ว่าทำแล้วเสร็จเมื่อไหร่ โดยมวลน้ำที่หลากลงไปจุดนี้จะไหลเข้าพื้นที่การเกษตรในตำบลยางท่าแจ้ง ตำบลหนองบัว ตำบลเขื่อน อ.โกสุมพิสัย และตำบลเหล่าบัวบาน อ.เชียงยืน

ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีวันนี้ วัดที่เขื่อนมหาสารคาม ระดับน้ำเก็บกักอยู่ที่ 146.80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำหน้าเขื่อนและท้ายเขื่อนอยู่ที่ 151.47 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานนี้ 1 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,290.40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คิดเป็น 111.49 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีปริมาณน้ำในลำน้ำเหนือเขื่อน 47.350 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 197.29% ระดบน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.97 เมตร และระดับน้ำทำลายสถิติ สูงกว่าระดับน้ำสูงสูดในปี 2564 อยู่ที่ 27 เซนติเมต

นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า เนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์น้ำลง ทำให้สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้น ซึ่งมีอำเภอที่ได้รับผลกระทบ4อำเภอ4 อำเภอ (อ.โกสุมพิสัย,อ.กันทรวิชัย,อ.เมืองมหาสารคาม และ อ.เชียงยืน) 45 ตำบล 523 หมู่บ้าน 5 ชุมชน หมู่บ้านถูกตัดขาด 12 ตำบล 57 หมู่บ้าน2. ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,020 ครัวเรือน 29,770 คน3. เสียชีวิต 5 คน4. จุดอพยพประชาชน 12 แห่งพร้อมกับสั่งหน่วยที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการในการนำเครื่องสูบน้ำดำเนินการติดตั้ง และเร่งตรวจสอบจำนวนเรือในแต่ละอำเภอเพื่อนำมาช่วยเหลือในพื้นที่ประสบอุทกภัย ในส่วนของอำเภอให้ประชาสัมพันธ์การกระตุ้นเตือนประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย ในการออกหาปลาเพิ่มความระมัดระวังเรื่องกระแสน้ำและไฟฟ้ารั่ว/ไฟฟ้าลัดวงจรพร้อมออกสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย