จับสาวกาฬสินธุ์คาปั๊ม ซิ่งกระบะขนยาบ้าซุกขี้ไก่ 3.6 ล้านเม็ด มูลค่า 180 ล้าน
ตำรวจอยุธยารวบสาวกาฬสินธุ์วัย 40 ปี ซิ่งกระบะขนยาบ้าซุกขี้ไก่ตบตา จำนวน 3.6 ล้านเม็ด สารภาพรับจ้างขนยาจากภาคเหนือไปส่งให้ลูกค้าในแถบปริมณฑล ได้ค่าจ้างครั้งละ 50,000-70,000 บาท
วันที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา และพล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด โดยมีผู้ต้องหาคือ น.ส.กนกกาญจน์ หรือ กาญจน์ อายุ 40 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ พร้อมยาบ้าจำนวน 3,600,000 เม็ด บรรจุกระสอบซุกซ่อนไว้ในรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีเทาดำ
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า จะมีการขนยาบ้าจำนวนมาก โดยใช้รถยนต์กระบะ เดินทางมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ เพื่อส่งในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล จึงได้ร่วมกับ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ชุดสืบสวน ภ.จว.สระบุรี หลังรับรายงาน จึงเฝ้าติดตามและวางกำลังเพื่อจับกุม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพฯ ม.9 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่ผู้ต้องหากำลังแวะเข้าห้องน้ำ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเป็นหญิงสาวและเป็นผู้ขับขี่รถเพียงคนเดียว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อมีการเข้าจุดตรวจเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ให้มีการตรวจค้นอย่างละเอียด นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้ถุงบรรจุปุ๋ยคอกซึ่งเป็นขี้ไก่ ปะปนมากับยาเสพติดเพื่อกลบกลิ่น
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างลำเลียงยาบ้ามาจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นปริมณฑล โดยทำมาแล้วหลายครั้ง และจะได้รับค่าจ้างครั้งละประมาณ 50,000-70,000 บาท ซึ่งยาบ้าทั้งหมดที่จับกุม ถ้าเข้าสู่กระบวนการของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดแล้วจะมีมูลค่าสูงประมาณ 180 ล้านบาท
ทั้งนี้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมักจะพัฒนาและเปลี่ยนวิธีการในการขนยาเสพติดหลากหลายวิธี โดยการเปลี่ยนเส้นทาง มีการตรวจสอบจุดตรวจตามเส้นทางต่างๆ เพื่อหลบหลีกด่านตรวจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการและยุทธวิธีต่างๆ ในการตรวจค้นและสังเกตความผิดปกติของรถยนต์ทุกชนิดที่เข้ามาในด่านตรวจ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี และการสืบสวนขยายผลจากการจับกุมผู้ค้ารายย่อยรายเล็กรวมไปถึงผู้เสพให้มากที่สุดเพื่อให้ไปถึงกลุ่มค้ารายใหญ่อย่างที่มีการจับกุมในวันนี้
ขณะที่ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเป็นทางผ่าน และพักของกลุ่มขบวนยาเสพติดก่อนเข้าถึงพื้นที่ปริมณฑล จึงจะใช้มาตรการห้ามผ่านและห้ามพัก ของขบวนการยาเสพติด พร้อมกับการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดทุกกลุ่ม ส่วนผู้เสพดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวมาบำบัด
ข่าวโดย สุทธิพร กองสุทธิผล จ.พระนครศรีอยุธยา
