ผับศูนย์เหรียญ ผับลับชาวจีนมั่วเสพยา สะเทือนยานนาวา แกะรอยเบื้องหลัง
ฮอตมาก ผับศูนย์เหรียญ ผับลับชาวจีนมั่วเสพยา สะเทือนยานนาวา-สาทร แกะรอยเบื้องหลัง งานเข้า ผกก.ยานนาวา จนถูกย้ายด่วน
กลายเป็นประเด็นร้อน หลังตำรวจนครบาลนับร้อยนาย บุกทลาย ผับศูนย์เหรียญ เป็นผับลับชาวจีนมั่วเสพยา ตรวจค้นอาคาร จินหลิง , อาคาร LEELA และ อาคาร WIP WUP CAR WASH เลขที่ 60-60/1 ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ หลังพบว่ามีการลักลอบเปิดสถานบันเทิง และมียาเสพติดอยู่ภายในจำนวนมาก เมื่อวานนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อัปเดต จับชาวจีน 237 คนมั่วสุมเสพยา แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
- สั่งย้ายด่วน! "พ.ต.อ.ธนโชติ ฤกษ์ดี" พ้น ผกก.สน.ยานนาวา พิษชาวจีนมั่วเสพยา
โดยหน้าเปิดเป็นร้านรับล้างรถบังหน้า ด้านในอาคารรถหรูจอดเรียงราย พบนักเที่ยวชาวจีนกว่า 200 คน เจอสารเสพติด ค้นห้องพบยาเสพติดบรรจุซองพร้อมขายซองละ 1 หมื่นบาท เพิ่งเปิดบริการมา 4 เดือน เน้นลูกค้าชาวจีน และรู้ตัวเจ้าของกิจการแล้ว
น่าสนใจว่า เบื้องหลังเรื่องฉาวนี้ ใครกล้าไฟเขียวลับลอบไม่เกรงกลัวตำรวจและกฎหมาย จนทำให้ ผกก.สน.ยานนาวา จนถูกย้ายด่วน
ภายหลังตำรวจนครบาลเข้าจับกุมสถานบันเทิง ย่านยานนาวา โดยพบว่าเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของนักเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน จำนวนกว่า 200 คน อีกทั้งในร้านยังพบยาเสพติดหลากหลายชนิดตกอยู่เป็นจำนวนมาก
ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีต ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลว่า มีนายทุนคนจีนที่เดินสายสีเทาจำนวนมาก มาลงทุนเปิดสถานบันเทิงเกินเวลา จัดให้มีปาร์ตี้ยาเสพติด และเปิดบ่อนการพนัน กระจายทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีนั้น
กลุ่มนายทุนชาวจีน เปิดสถานบันเทิงแบบนี้ จะรับลูกค้าที่เป็นคนจีนเท่านั้น มีการรับฝากยาเสพติดที่เสพไม่หมด ไม่ต้องเสี่ยงเจอด่านตรวจตำรวจ
อีกทั้งสถานบันเทิงดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่เพียงผับ แต่ยังเปิดเป็นบ่อนการพนันด้วยด้วย แถมยังนำน้ำดื่ม สุรา บุหรี่ นำเข้ามาจากประเทศจีน พร้อมจ้างคนจีนเป็นเด็กเสิร์ฟ
จึงเรียกสถานบันเทิงประเภทนี้ว่า “ผับศูนย์เหรียญ” คือ เจ้าของเป็นคนจีน ของทุกอย่างมาจากประเทศจีนทั้งหมด โดยเข้ามาทำธุรกิจสีเทาอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย
นายทุนจีนชอบจ่ายหนักให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ จึงสามารถเปิดธุรกิจสีเทาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเท่าที่ทราบมีอยู่ในย่านรัชดาภิเษก , สุทธิสาร , ห้วยขวาง , พระราม 2 และพัทยา
ขบวนการเหล่านี้ มีเจ้าพ่อเมืองหลวง ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ให้ความคุ้มครอง ที่ทำหน้าที่หาเงินสีเทาเพื่อเอาไปให้กลุ่มการเมือง ตลอดจนเป็นทุนในการใช้เลือกตั้งในครั้งต่อไป
"ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการนายทุนจีน ทำธุรกิจสีเทา และคนรับผลประโยชน์ ที่ตำรวจต้องรู้ไว้เพื่อปราบปราม โดยจะนำข้อมูลดังกล่าวให้ แก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับโทรศัพท์สายตรงถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อขอให้ช่วยปราบปรามกลุ่มนายทุนเหล่านี้ ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ได้ตอบรับ ยินดีนำข้อมูลนี้ไปตรวจสอบ พร้อมยืนยันจะดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง" นายชูวิทย์ กล่าว
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของหญิงชาวจีนในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ก็มาจากการน็อกยาเสพติด ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาภิเษก มีความพยายามที่จะทำลายหลักฐาน เพื่อไม่ให้เชื่อมโยงเรื่องยาเสพติดด้วย
นอกจากนี้ ยังเสนอแนะให้ตั้งศูนย์ปราบปรามนายทุนจีนที่ทำธุรกิจสีเทาอย่างจริงจัง คือ ให้ตรวจสอบกลุ่มนายทุนชาวจีนที่เป็นตัวหลัก ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และประสานกับประเทศจีน เพื่อขอประวัตินายทุน และชาวจีนที่เกี่ยวข้อง เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป จะเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจ ก่อปัญหาสังคม และอาชญากรรมแก่ประเทศชาติ
ออกหมายเรียกเจ้าของผับ พบสารเสพติดนักเที่ยวนับร้อยคน
พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช. น.) กล่าวถึงตำรวจนครบาลเข้าควบคุมตัวนักท่องเที่ยว ภายในสถานบันเทิง ย่านยานนาวา จำนวน มากกว่า 229 คน โดยควบคุมตัวไปไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซอยสวนพลู พร้อมให้ทั้งหมดตรวจหาสารเสพติด ประเภทเคตามีน โดยใช้ขั้นตอนกระบวนการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ตลอดจนโรงพยาบาลที่มีเครื่องตรวจอีก 3 แห่ง
ผลปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยว ที่มีสารเสพติด จำนวนประมาณ 104 คน แต่อยู่ระหว่างการคัดแยกสารประกอบว่า เคตามีนที่พบในร่างกายนั้น เป็นเคตามีนจากการเสพยาเสพติดหรือได้รับมาจากแหล่งที่มาใด เนื่องจากผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามรายงานของ สน.ยานนาวา พบว่าสถานบันเทิงแห่งดังกล่าว เคยเปิดเป็นบ่อนการพนันก่อนที่จะปิดตัวลงไป และกลับมาเปิดกิจการเป็นร้านอาหารได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ตามคำให้การของพยาน โดยเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว เป็นชาวจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสถานบันเทิงชื่อดังขนาดใหญ่แห่งหนึ่งย่านถนนรัชดาภิเษก
โดยเห็นได้จากข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้จัดการ และลูกค้าที่มีการพูดคุยว่าร้านดังกล่าว ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ อยู่ระหว่างการปิดให้บริการปรับปรุง พร้อมแนะนำให้มาเที่ยวที่ร้านดังกล่าวแทน
ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกหรือหมายจับเจ้าของตัวจริงมาดำเนินคดี ในข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต , เปิดสถานบันเทิงโดยไม่มีใบอนุญาต, และปล่อยปละละเลยให้ใช้ยาเสพติด” ส่วนผู้จัดการที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ในที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ให้ความร่วมมือ และไม่ยอมให้การใดๆ
จากนี้จะให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบประวัติของนักท่องเที่ยวทุกคนที่ถูกควบคุมตัวไว้ เพื่อตรวจสอบการเดินทางเข้ามาภายในประเทศ, ทรัพย์สินภายในครอบครอง อาทิ เงินสด รถหรูยี่ห้อต่างๆ และทรัพย์สินอื่นๆที่ตรวจ เพื่อหาเส้นทางการเงินและแหล่งที่มาของทรัพย์สินต่างๆ มีรายได้มาจากการทำธุรกิจอะไร เป็นการถือครองด้วยตนเอง หรือมีนอมินีตัวแทนเป็นผู้ถือครองให้
หากพบว่าได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย หรือไม่สามารถชี้แจงที่มาได้ก็จะดำเนินการส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ป.ป.ง. เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบ
ส่วนเรื่องรถหรูที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุจำนวนถึง 35 คัน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นพบว่า มีการสวมทะเบียนโดยผิดกฎหมาย 1 คันซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าของรถในที่เกิดเหตุไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนรถคันอื่นๆ พบว่ามีเจ้าของที่เป็นทั้งคนไทย และชาวจีนจำนวนมาก แต่ไม่มีบุคคลใดนำกุญแจรถมามอบให้หรือแสดงตัวเป็นเจ้าของ
ทางตำรวจจึงยึดอายัดไว้เพื่อรอให้เจ้าของตัวจริงนำเอกสารมาแสดงเพื่อรับรถกลับคืนไป ซึ่งพบว่าตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมามีบุคคลมาแสดงตัวแล้วแต่ไม่ได้นำเอกสารมาด้วยเจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถปล่อยรถกลับไปได้
ขณะที่ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุได้พบหลักฐานสำคัญคือ ใบเสร็จค่าบริการโดยเฉลี่ย โต๊ะละประมาณ 170,000 บาท ซึ่งในใบเสร็จจะระบุค่าบริการพิเศษเป็นภาษาจีน ซึ่งแปลได้ว่า เป็นค่ายาเสพติดประเภทต่างๆ นอกจากนี้ยังพบเงินสด จำนวน 1 ล้านบาท ภายในร้าน ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อตรวจหาสารเสพติด และพยานหลักฐานอื่นๆ เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
นอกจากนี้ยังพบตู้เซฟอีก 6 ใบ โดยผู้จัดการร้านยินยอมเปิดตู้ให้ 1 ตู้พบเป็นยาเสพติดประเภทต่างๆ ทั้งเคตามีน happy water และอื่นๆ ส่วนอีก 5 ตู้ผู้จัดการ และคนงานในร้านไม่ยอมเปิดให้จึงยึดอายัดมาเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการเจาะเปิดตู้ตามขั้นตอนของกฎหมาย คาดว่า จะเป็นเงินสด หรือยาเสพติดที่ทางร้านเก็บไว้จำหน่าย
กรณีที่ร้านดังกล่าวเปิดให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ไม่ทราบจะเป็นการปล่อยปละละเลย หรือไม่เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 แต่ สน.ยานนาวา ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 จึงมีหนังสือคำสั่งให้ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ไปช่วยราชการซึ่งก็มาจากเรื่องดังกล่าว
...
อ้างอิง - กองบัญชาการตำรวจนครบาล , และเพจชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์