ยื่นคัดค้านประกันตัว เสี่ย ป. อุดรฯ เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

ยื่นคัดค้านประกันตัว เสี่ย ป. อุดรฯ เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

พ่อสาว 16 เหยื่อเสี่ย ป. ยื่นตำรวจคัดค้านประกันตัว หวั่นออกมายุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะหญิงสาวทั้ง 6 เข้าให้ปากคำทีมสหวิชาชีพ เพื่อรวบรวมข้อมูลเอาผิดเสี่ยดัง

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 65 ความคืบหน้ากรณีตำรวจอุดรธานี บุกค้นบ้านเสี่ย ป. อายุ 55 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังได้รับแจ้งจากผู้ปกครองเด็กสาววัย 14 - 16 ปี ว่า เสี่ย ป. ชักชวนเด็กสาวมาถ่ายภาพ และคลิปเปลือย และมีการร่วมหลับนอนกับเด็กสาว และถ่ายภาพและคลิปวิดีโอไว้ โดยจ่ายเงินครั้งละ 600 - 1,000 บาท มีเด็กสาวตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก จากการตรวจค้นบ้าน ยังพบเด็กสาวอายุ 15 ปี อยู่ในห้องนอน 2 คน พร้อมถุงยางอนามัย และสุรา

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก จาก เพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้นำนายน้อย (นามสมมติ) อายุ 51 ปี พ่อ น.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหายที่เสี่ย ป. ชักชวนไปถ่ายภาพและคลิปเปลือย มายื่นหนังสือขอคัดค้านการประกันตัวเสี่ย ป. ในชั้นพนักงานสอบสวน เพราะเกรงว่า จะไปยุ่งเหยิงกับหลักฐานและพยาน เพราะเป็นคนมีฐานะ และกว้างขวางในสังคม โดยมี พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เป็นตัวแทนรับหนังสือ

ยื่นคัดค้านประกันตัว เสี่ย ป. อุดรฯ เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
 

นายน้อย เล่าว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่า แม่ น.ส.นิด เสียชีวิตไปนานแล้ว และตนมีภรรยาใหม่ ตนมีลูก 2 คน น.ส.นิดเป็นลูกสาวคนเล็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำงานเสิร์ฟอาหาร ลูกเป็นเด็กเชื่อฟังตนดี โดยบอกกับตนว่า จะไปนอนบ้านเพื่อน ตนจึงอนุญาต และมารู้เรื่องเมื่อตำรวจมาที่บ้านบอกว่า ลูกสาวโดนเสี่ย ป. นำไปถ่ายภาพและคลิปเปลือยได้เงิน 600 บาท ลูกเกรงว่า ภาพจะหลุดไปในโลกโซเชียล ตนรู้สึกตกใจมาก และเสียใจมาก จึงพาลูกมาแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับเสี่ย ป.จนถึงที่สุด และพร้อมคัดค้านการประกันตัว อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าปล่อยปะละเลย

ขณะที่ นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก กล่าวว่า ได้นำผู้ปกครองซึ่งเป็นผู้เสียหาย ซึ่งเกิดความกลัว เพราะว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีฐานะ ถ้าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานและหลักฐาน กลัวถูกข่มขู่ และไม่รู้ว่า ภาพและคลิปลามกอนาจาร ที่ผู้ต้องหาได้ถ่ายเก็บเอาไว้ จะอยู่ในคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ ที่ตำรวจตรวจยึด หรือผู้ต้องหาเก็บเอาไว้ ไม่ทราบว่าเก็บไว้ในไดร์ฟอื่น ไอคลาวด์ (iCloud) อื่น หรือคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น อีกหรือไม่ หากผู้ต้องหาได้การประกันตัว แล้วมีความโกรธแค้นต่อน้อง ๆ อาจจะเอาคลิปออกไปเผยแพร่ก็ได้ ซึ่งผู้เสียหายและพ่อก็มีความกังวล จึงพาผู้เสียหายมายื่นคัดค้านการประกันตัว

ยื่นคัดค้านประกันตัว เสี่ย ป. อุดรฯ เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

ทางด้านนางแมว นามสมมติ อายุ 36 ปี แม่ น.ส.โม อายุ 15 ปี ที่พบอยู่ในห้องนอนบ้านเสี่ย ป. ขณะตำรวจบุกเข้าค้น เล่าว่า ตนแยกทางกับสามี เลี้ยงลูกตามลำพัง โดยน้องโมเป็นลูกคนโต เรียนอยู่ชั้น ม.3 เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่เคยเกเร ช่วงออกพรรษาลูกมาขอไปนอนบ้านเพื่อน ตนได้อนุญาตวันเดียว ลูกก็กลับมาบ้าน จากนั้นลูกก็จะมาขอไปนอนบ้านเพื่อนเรื่อย ๆ กระทั่งลูกหายไปตั้งแต่วันที่ 23 - 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ออกตามหาที่บ้านเพื่อนไปเรื่อย แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น ตนกำลังจะมาแจ้งตำรวจก็พบข่าวอยู่ในโซเชียลว่า ลูกไปอยู่บ้านเสี่ย ป. จึงรีบมาโรงพัก เพื่อสอบถามลูกทราบว่าเพื่อนชวนมาเล่น และเสี่ย ป. ไม่ได้ทำอะไร

“ลูกหายไปหลายวันก็เป็นห่วง ออกตามหาทุกที แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น ครั้งแรกที่เห็นข่าวโซเชียล ก็จำเสื้อที่ลูกใส่ได้ พอรู้ว่าลูกอยู่ในบ้านเสี่ย ป. ก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าลูกจะไปอยู่บ้านคนอื่น เพราะลูกบอกว่า อยู่บ้านเพื่อน ไม่นานเจ้าหน้าที่ พมจ.ก็โทรศัพท์มาหา จึงรีบมาโรงพัก ฝากถึงผู้ปกครองที่มีลูกในวัยนี้ เป็นวัยที่ดื้อ ให้ดูบุตรหลานให้ดี เขาอยากได้อะไรก็หาให้ ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องห้าม ไม่ใช่ตามใจทุกเรื่อง และฝากถึงเสี่ย ป. ไม่อยากให้ทำกับเด็กคนอื่นอีก เพราะไม่ดีต่อสังคม เพราะลูกเราก็รัก เลี้ยงมาแต่เล็กจนโต อย่าไปทำกับเด็กอื่นอีก”

ส่วนตำรวจและสหวิชาชีพได้นำเด็กสาวทั้ง 6 คน มาสอบสวนปากคำ โดยแยกสอบสวนเด็กห้องละ 1 คน ซึ่งจะสอบถามว่า เด็กมาอยู่บ้านเสี่ย ป.ตั้งแต่เมื่อไหร่ มาอย่างไร ทำอะไรบางตอนอยู่ในบ้าน เพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน และจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป