ผลผ่าชันสูตรซากวาฬบรูด้าเกยตื้นเกาะราชา จ.ภูเก็ต พบถ้วยพลาสติกในลำไส้

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้นำเรือทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 308 (ทช.308) และเรือสปีดโบ๊ท เข้าไปตรวจสอบซากวาฬขนาดใหญ่ ซึ่งถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณแหลมไทร ทางทิศใต้ของเกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต

ก่อนนำกลับเข้าฝั่งบริเวณชายหาดหน้าศูนย์วิจัยฯ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต หลังได้รับการประสานจากสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับแจ้งจากนายสฤษดิ์ จันทร์ดี เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเกาะราชาใหญ่ว่า พบซากวาฬขนาดใหญ่ดังกล่าวลอยอยู่ริมฝั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 ตุลาคม 2565

ทั้งนี้ เพจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้มีการรายงานผลการตรวจสอบซากวาฬดังกล่าว โดยระบุว่า จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ซึ่งได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 ทำการผ่าพิสูจน์ซากวาฬดังกล่าว พบว่า เป็นซากวาฬบรูด้า ขนาดความยาวลำตัว 13 เมตร เพศเมีย โตเต็มวัย สภาพซากเน่ามาก และได้นำมาชันสูตรหาสาเหตุการตาย 

โดยพบว่าอวัยวะส่วนใหญ่เน่า และย่อยสลาย ภายในกระเพาะอาหารพบของเหลวปนอาหารเล็กน้อย และมีผลลูกจาก จำนวน 2 ลูก ซึ่งไม่ใช่อาหารตามปกติ ภายในลำไส้พบของเหลวตลอดลำไส้และพบพยาธิตัวกลมและพยาธิตัวตืดเล็กน้อย โดยในส่วนของลำไส้เล็กส่วนกลางพบถ้วยพลาสติกจำนวน 1 ใบ แต่ยังไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของลำไส้

เบื้องต้นพบว่าวาฬดังกล่าว มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ แต่มีสภาพซากเน่ามาก จึงไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้แน่ชัด