จับ “อาหยง” นายทุนโหด เครือข่าย SCAMMER แฉขบวนการตุ๋นเงินเหยื่อออนไลน์
ตำรวจรวบ “อาหยง” นายทุนจีนโหด หลอกแรงงานไทยทำงาน ประเทศเพื่อนบ้าน บังคับทุบตีให้เป็น SCAMMER แฉขบวนการตุ๋นเงินเหยื่อออนไลน์
เวลา 10.30 น.วันนี้ ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วยพร้อมด้วย พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.9 บก.รน. รรท.ผกก.4 บก.ปคม. ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายหวง หรือ อาหยง อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1112/2564 ลงวันที่ 8 ก.ค. 2564 ข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ และ ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกองค์อาชญากรรมกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานฯ” หลังจับกุมตัวได้ที่ บริเวณลานจอดรถย่าน ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
จากกลุ่มคนร้ายมีพฤติการณ์เป็นเครือข่ายขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ประกอบด้วยคนจีน ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า รวม 19 คน ร่วมกันหลอกคนไทยด้วยวิธีการลงโฆษณาในอินเตอร์เน็ต หลอกว่า มีการจัดหาคนไปทำงานที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนถูกบังคับพาข้ามไปฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ ผ่านช่องทางธรรมชาติ ไปยังบริษัท JinXin Holdings จำกัด
จากนั้น จะบังคับใช้แรงงานไทย ทำหน้าที่เป็น Scammer ก่อเหตุหลอกลวงเงินผู้อื่นผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยอ้างนำเงินมาร่วมลงทุนธุรกิจเงินดิจิตอล หรือ บิทคอยท์
พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถให้การช่วยเหลือ คนไทยที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกไปทำงานได้จำนวน 7 คน คำให้การ ชี้ขั้นตอนและวิธีการก่อเหตุ โดยการสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมา ในแอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Tinder, Badoo, Blumboo, Jaumo Dating ฯลฯ แล้วบังคับให้กลุ่มเหยื่อแรงงานเหล่านี้ นำไปใช้พูดคุยหลอกถามข้อมูลส่วนตัว และชักชวนคนมาลงทุน เมื่อมีคนสนใจทักกลับมา จะส่งต่อให้หัวหน้าทีมซึ่งเป็นชาวมาเลเซียและฟิลิปปินส์เป็นคนดำเนินการต่อ ซึ่งในแต่ละวันกลุ่มผู้เสียหายจะถูกบังคับให้ทำงานวันละ 12 ชม. ไม่มีวันหยุด ต้องทำยอดให้ได้ตามที่กำหนด
หากว่าใครไม่ยอมหรือทำงานไม่ได้ตามยอดที่กำหนดจะถูกลงโทษ โดยส่งไปขังที่ “ห้องดำ” หรือถูกทำร้ายร่างกาย โดยการโกนผมและใช้ไฟฟ้าช็อต ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถขัดขืนได้ ถ้าผู้เสียหายคนใดต้องการกลับมาประเทศจะต้องนำเงินมาจ่ายเป็นค่าไถ่ตัวจำนวน 50,000 บาท บางรายต้องให้ญาติให้เอารถไปจำนำ หรือ กู้เงินนอกระบบ เพื่อนำมาให้กับกลุ่มผู้ต้องหา แลกกับการปล่อยตัวกลับมา
พ.ต.อ.แมน กล่าวว่า ล่าสุด ชุดจับกุมสืบทราบเบาะแสว่า นายอาหยง ผู้ต้องหารายนี้ ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย เมื่อช่วง พ.ค. 2565
เนื่องจากมีกิจการค่ายมวยชื่อ “อาหยงยิมส์” รวมถึงเป็นโปรโมเตอร์ในการจัดต่อยมวยตามเวทีต่างๆ ในประเทศไทย จึงแกะรอยตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว จากการสอบปากคำเบื้องต้น ให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมาย