"ธรรมาภิบาล" ร้อง ผอ.รพ.พระมงกุฎฯ สอบประมูลจ้างทำความสะอาด 48 ล้าน
กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ยื่นหลักฐาน ขอให้ ผอ.รพ.พระมงกุฎเกล้า ตรวจสอบ ดำเนินคดี กรณีใช้เอกสารปลอม เสนอราคา ทำสัญญาจ้างเหมาทำความสะอาดอาคาร 48 ล้าน
วันนี้ 3 พฤศจิกายน 2565 กลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น โดยนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลฯ ยื่นเรื่องต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พลตรี ธำรงโรจน์ เต็มอุดม (ผอ.รพ.รร.6) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กรณีปลอมและใช้เอกสารปลอมเพื่อเสนอราคาและทำสัญญาโครงการจ้างเหมาทำความสะอาดอาคารภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประจำงวด 12 เดือน ด้วยวิธีประกวดราคาเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
วิวัฒน์ เผยว่า กลุ่มธรรมาภิบาลฯ ได้รับร้องเรียน และแจ้งข้อมูลจากเครือข่ายฯใน รพ.พระมงกุฎเกล้า ว่า การจ้างเหมาทำความสะอาด ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-biddig) ตามเอกสารประกวดราคาเลขที่ 9/2563 ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 วงเงิน 48 ล้านบาท น่าจะมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามร่างขอบเขตของงาน หรืออาจจะไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯได้ปรึกษาและมีมติเอกฉันท์เห็นสมควรให้พิจารณาตัดสินให้ บริษัท "เอ" ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และไม่เห็นด้วยกับคำขออุทธรณ์กรณีเป็นผู้ไม่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น โดยอาจจะกระทำการโดยไม่สุจริตมาแต่แรก
นายวิวัฒน์ เผยว่า มีหลักฐานว่า คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ มีเหตุที่สงสัยว่า การจ้างเหมามีการกระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม มีการจัดทำเอกสารปลอม และใช้เอกสารปลอมเพื่อให้ตนเองเป็นผู้มีสิทธิเข้าเสนอราคา ตามข้อพิจารณาอันสำคัญของ นธน.รพ.รร.6 และ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ดังนี้
1.ตามบันทึกข้อความ นธน.รพ.รร.6 ที่ต่อ กห 0446.16/ท 76 วันที่ 30 มี.ค.2563 เรื่อง ขอหารือผลการตรวจสอบเอกสาร ถึง ประธานคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ เห็นว่า “...การกระทำของบริษัทฯผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าว นอกจากจะมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือกระทำโดยทุจริตแล้ว ยังอาจเข้าข่ายเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 หากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ เห็นควรให้มีการดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัทฯ ผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าว ก็ขอให้มีหนังสือรายงานข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวต่อ ผอ.รพ.รร.6 เพื่อพิจาณาสั่งการต่อไป...”
2.บันทึกข้อความคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ที่ กห 0446.16/- วันที่ 13 ก.ค.2563 เรื่อง ชี้แจงการพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างเหมาทำความสะอาดฯ ถึง ผอ.รพ.รร.6 ได้พิจารณาโดยมีสาระสำคัญว่า “...บริษัท....... จำกัด ได้ยื่นสำเนารับรองผ่านการฝึกอบรมบริหารจัดการขยะและลดการแพร่กระจายเชื้อ ลงวันที่ 30 ส.ค.2562 ออกให้โดยโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ พร้อมแนบรายชื่อผู้เข้ารับการอบรม มีจำนวนทั้งสิ้น 266 คน แต่จากการยื่นขอตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังหน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง เพื่อความถูกต้องของผู้ผ่านการฝึกอบรมตามหนังสือรับรองฉบับดังกล่าว ปรากฏว่าโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมการแพทย์ทหารอากาศ ได้ยืนยันว่ามีการฝึกอบรมฯตามหนังสือรับรองฉบับดังกล่าวจริง แต่จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีเพียง 199 นาย และรายชื่อผู้เข้าอบรมไม่ตรงกับรายชื่อที่บริษัทฯได้ยื่นเสนอไว้แล้วในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) จึงถือว่ายื่นเอกสารอันเป็นเท็จ...”
3.ตามเอกสารประกวดราคาจ้างด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ 8/2563 กำหนดว่าผู้เสนอราคาต้องมีความพร้อมในแรงงาน คือ “...มีจำนวนผู้ควบคุมงานและพนักงานทำความสะอาดที่เพียงพอกับความต้องการของโรงพยาบาล โดยหัวหน้าผู้ควบคุมงานและพนักงานทำความสะอาดจะต้องเป็นพนักงานของผู้เสนอราคา ต้องไม่เป็นคนต่างด้าว และไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง มีการทำประกันสังคมถูกต้องตามกฎหมาย และได้ผ่านการฝึกอบรมด้านการแพร่กระจายเชื้อโรคในโรงพยาบาลที่ผ่านรับรองมาตรฐาน JCI ( The Joint Commission international Accredtation ) อย่างใดอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการจัดการขยะมูลฝอยอันตรายชนิดเคมีบำบัด และการอบรมอัคคีภัยจากโรงพยาบาลของรัฐ หรือหน่วยงานสาธารณสุข พร้อมใบประกาศ หรือหนังสือรับรองการฝึกอบรม (มีอายุไม่เกิน ๒ ปี) โดยแสดงเอกสารดังกล่าวต่อคณะกรรมการในวันเสนอราคา...” ซึ่งถือว่าเป็นเอกสารเสนอราคาในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ
ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เผยว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นได้ว่ามีขบวนการจัดทำเอกสารปลอมและใช้เอกสารปลอมเพื่อให้ผู้ใดผู้หนึ่งได้มีสิทธิเข้าเสนอราคา ซึ่งเป็นกรณีที่ทำให้โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้รับความเสียหายจากการกระทำของขบวนการดังกล่าว เป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ไม่สุจริตในการแข่งขันราคา และเกิดความเสียหายต่อทางราชการและเงินแผ่นดิน
กลุ่มธรรมาภิบาลฯ จึงขอให้พลตรี ธำรงโรจน์ ในฐานะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตรวจสอบ และหากพบว่าเป็นการทำให้โรงพยาบาลเสียหาย ขอให้มีข้อสั่งการเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดทั้งหมดในกรณีปลอมและใช้เอกสารปลอม และ ความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามข้อพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาและความเห็นของ นธน.รพ.รร.6 ด้วย