ผู้การฯเชียงใหม่ สั่งตั้งกก.สอบแล้ว ปมเมียร้องผัวตำรวจติดยาทำร้ายร่างกาย

ผู้การฯเชียงใหม่ สั่งตั้งกก.สอบแล้ว ปมเมียร้องผัวตำรวจติดยาทำร้ายร่างกาย

"กัน จอมพลัง" แฉมีตำรวจติดยาทำร้ายร่างกายเมีย ลั่นเดินหน้าช่วยเต็มที่ ชี้มีระดับ ผกก. โทรมาเคลียร์แทนลูกน้อง ขอให้เห็นแก่อนาคตลูก ขณะที่ ผู้การฯเชียงใหม่ ยอมรับตำรวจรายนี้ย้ายมาเชียงใหม่จริง ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "กันจอมพลัง" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "มี มาร้องผมถูก สามีเป็นตำรวจติดยา เวลาเมายาชอบทำร้ายร่างกายเอาถุงดำคลุมหัวตัวเองและลูก ไปร้องผู้บังคับบัญชาก็ไม่ช่วยอะไร จนตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่ สภ.หนึ่งในเชียงใหม่ (ไม่ใช่เมือง) และยังเป็นตำรวจอยู่ ญ คนนี้จึงเดินทางจากสงขลา เพื่อขอให้ผมช่วย

 

 

จนตอนนี้มี ผกก. ภาคเหนือ คนนึง รู้ว่าผมช่วย จึงโทรมาหา ญ คนนี้ว่าถ้าเห็นแก่อนาคตลูก ให้บอกกับรายการ ร่วมด้วยช่วยสู้ ของผมว่า ให้ระงับการออกอากาศ เพราะถ้ารายการออกไปลูกน้องเค้าโดนแน่ และลูกจะไม่ได้สวัสดิการอะไรเลย (มีคลิป) ซึ่งตอนนี้ ญ บอกว่าให้ออกอากาศได้ เพราะที่ผ่านมาเค้าเจ็บช้ำมามากแล้ว อยากดำเนินการให้ถึงที่สุด เจอ 17.00 เสาร์นี้ อัมรินทร์ TV

 

ผมอยากฝากถามว่า ผกก. คิดอะไรอยู่ถึงมาพูดแทนลูกน้องที่มีประวัติพัวพันยาเสพติด ประเทศนี้มันหาคนอื่นเป็นตำรวจไม่ได้แล้วหรือ ถึงยังต้องใช้ตำรวจที่เสพยา ตำรวจดี ๆ มีเยอะ แต่พวกนอกรีดก็ควรตัดทิ้งไม่ใช่ช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นคนทำงานคนดี ๆ ก็จะแปดเปื้อนไปด้วย" ซึ่งหลังโพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไปก็มีแฟนเพจแห่เข้ามากดไลค์กดแชร์และแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

 

 

ทางผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ได้ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ธนไชย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดย ผู้การฯเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ตัวของตำรวจนายนี้ได้ย้ายขึ้นมาในพื้นที่ภาคเหนือจริง และ ณ ปัจจุบันนี้ไม่ได้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปแล้ว

 

ส่วนกรณีที่มีการโทรเคลียร์ ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เนื่องจากเป็นเรื่องของสามีภรรยาทะเลาะกัน และพอทางผู้บังคับบัญชาของตัวสามีรู้ว่าจะมีเรื่องร้องเรียน ทางผู้บังคับบัญชาจึงได้ติดต่อไปยังฝ่ายหญิงเพื่อที่จะให้ฝ่ายหญิงขึ้นมาเจรจาตกลงกัน

 

ในส่วนเรื่องคดีนั้นจากการตรวจสอบก็พบว่ายังไม่มีการแจ้งความ ตอนนี้ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ต้องทำการสอบสวนตามขอบเขตอำนาจที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่จะสามารถทำได้

 

ข่าวโดย ธนกร วงค์นาง จ.เชียงใหม่