เมียตำรวจ ร้อง "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล" สามีติดยาพยามฆ่าใช้ถุงดำคลุมหัว
ทนไม่ไหวแล้ว เมียตำรวจ ร้อง "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล" รอง ผบ.ตร. ถูกสามีติดยา พยายามฆ่าใช้ถุงดำคลุมหัว แจ้งความแล้วแต่ ตร. อ้างเรื่องผัวเมีย
“กัน จอมพลัง” พร้อมเมียตำรวจ หอบหลักฐานยื่น "บิ๊กต่อ" รองผบ.ตร. ระบุถูกสามีทำร้าย พยายามฆ่าใช้ถุงดำคลุมหัว-จุดไฟเผา แฉซ้ำติดยาเคยถูกส่งตัวไปบำบัด กลับมาทำงานได้ 8 วันกลับถูกทำร้ายซ้ำ แจ้งความแล้วแต่ตร.อ้างเรื่องผัวเมีย หมดหนทางเตรียมพาลูกไปกระโดดน้ำ ยันต้องการหย่า หวั่นซ้ำรอยโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาน.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นภรรยาจ่าสิบตำรวจโดนทำร้ายร่างกาย มายื่นหนังสือร้องเรียนกับ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) หลังถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง พยายามฆ่าด้วยการเอาถุงดำคลุมศีรษะและจุดไฟเผา โดยนำคลิปเสียงมามอบไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้มี พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ รองผบก.สพฐ.ตร. นายตำรวจเวรอำนวยการเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันนี้ทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เนื่องจากน้องมาขอความช่วยเหลือจากผม วันแรกที่รู้น้องจะฆ่าตัวตายแล้ว ไปอยู่กับลูกที่ริมแม่น้ำเพื่อจะกระโดดน้ำ และได้ติดต่อไปที่ทีมงานทนายไพศาล ทีมงานจึงติดต่อมาที่ตน จึงให้ไปรับตัวน้องมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ในส่วนของน้องได้เล่าให้ฟังว่าถูกสามีซึ่งยังจดทะเบียนกันอยู่ทำร้ายร่างกาย
“สามีมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมานานจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน มีการเอาถุงดำมาคลุมตัว เตรียมแอลกอฮอล์มาเพื่อจุดไฟเผา เป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างน่าตกใจ หลังเกิดเรื่องขึ้นทางผู้ใหญ่ที่ภาคใต้ก็ส่งไปบำบัด หลังจากไปบำบัดแล้วก็ยังเป็นตำรวจได้อีกแล้วย้ายมาอยู่ที่ภาคเหนือ จากนั้นน้องก็ได้ตามขึ้นมาอยู่ด้วยกันได้ 8 วันก็ถูกกระทืบ ถูกทำร้ายก็ไปแจ้งความ แต่ทางผู้บังคับบัญชาที่สถานีตำรวจไม่ให้แจ้งความบอกเป็นเรื่องของผัวเมีย เดี๋ยวก็ดีกัน น้องรู้สึกว่าไปมาทุกที่แล้วเกือบตายแล้ว จึงมาขอความช่วยเหลือ”
นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า วันนี้พามายื่นหนังสือให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ช่วยดูแลว่าเรื่องนี้เป็นอะไรเกิดอะไรขึ้น ได้มีการไปพูดคุยที่สำนักงาน รอง ผบ.ตร. พบกับ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ หัวหน้าสำนักงาน ท่านรับฟังพร้อมบอกว่าทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่หากพบคนที่ไม่ดีก็ต้องเอาออก ยินดีให้ความช่วยเหลืออย่าเต็มที่
“ผมฟังแล้วรู้สึกสบายใจที่มาหาผู้หลักผู้ใหญ่แล้วท่านให้ความช่วยเหลือ โดยระหว่างการพูดคุยได้โทรศัพท์หาผู้บังคับการจังหวัดเชียงใหม่ สอบถามว่าเรื่องนี้เกิดอะไรขึ้น พร้อมได้นัดหมายกับผู้บังคับการจังหวัดเชียงใหม่ให้ด้วย ผมจะพาน้องไปหาเพื่อพูดคุยในหลายๆ เรื่องที่มีความไม่สบายใจ ส่วนผู้กำกับการที่โทรมาหาน้องว่าอย่าไปออกรายการอย่าไปออกสื่อ เพราะถ้าออกไปโดนแน่ ผมก็ไม่เข้าใจ อยากจะตั้งคำถามฝากท่านว่าท่านโทรมาแบบนี้ ท่านต้องการอะไร ลูกน้องท่านไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ท่านจะปกป้องคนแบบนี้ไว้ในองค์กรทำไม”
ขณะที่น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) กล่าวว่า เวลาเขาหลอนเขาจะชอบทำร้ายลูกกับเมีย เขาเหมือนเป็นคนโลกสองใบ เวลาเขาดีเขาก็จะดี แต่เวลาเขาหลอนขึ้นมาตาเขาจะขวาง เขาชอบทำร้ายเราบ่อยครั้งมากที่ทำร้าย หนักสุดคือพยายามจะฆ่าโดยจับใส่ถุงดำตอนนั้นลูกนอนหลับอยู่ ส่วนอีกครั้งที่พยายามจะฆ่ารอบที่สองได้ทำร้ายลูกด้วย โดยจับลูกมาบีบหัว จึงขอร้องเขาว่าอย่าทำลูกตามคลิปเสียง ด้วยความที่เราเป็นแม่เราพยายามอ้อนวอนขอร้องจนเขาใจเย็นลง
“เวลาเขาเกิดอาการอยากยา เหมือนเขาหลอน เคยจะจุดไฟเผา มีแกลลอนน้ำมันอยู่ในห้องนอน ทางผู้บังคับบัญชาที่ภาคใต้จึงจับเขาไปบำบัดยาเสพติดเป็นเวลา 1 เดือน เมื่อออกมาก็ขอย้ายมาอยู่ที่บ้านเกิดในภาคเหนือและพาเราขึ้นมาด้วย แต่เป็นการพามาล้างแค้น เขาบอกว่าเขาเก็บความแค้นนี้เอาไว้ระยะเวลาที่เขาอยู่ในสถานบำบัดยาเสพติด มาอยู่เชียงใหม่ก็ยังมาเสพยาเสพติดอยู่แต่ผู้บังคับบัญชาไม่รู้ เขาเสพยามา 7-8 ปีแล้ว”
น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) กล่าวว่า ทางผู้บังคับบัญชาเขาบอกว่าเป็นเรื่องในครอบครัวให้พูดคุยกันก่อน ทั้งนี้ได้ขึ้นไปร้องเรียน 2 ครั้ง แต่เรื่องก็เงียบ มีการข่มขู่ไม่ให้ออกสื่อบอกว่าถ้าออกสื่อไปลูกน้องเขาก็ต้องโดนแน่ๆ ขณะนี้ลูกชายอายุ 6 ขวบ มีอาการซึมเศร้า พูดคนเดียว เหมือนเขาเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายมา บางครั้งเห็นเรานั่งร้องไห้เขาก็จะเข้ามากอด เขาก็ร้อง เราต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เผชิญด้วยกันมาสองคน
น.ส.เจี๊ยบ บอกอีกว่า ที่ผ่านมาเราหมดทางแล้วจึงชวนกันไปกระโดดน้ำตาย แต่ได้ทนายไพศาลและคุณกัน จอมพลังช่วยไว้ ทั้งนี้เคยไปร้องขอตามหน่วยงานต่างๆ แล้วไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย จึงส่งข้อความไปบอกทีมงานคุณกัน ว่าขอไม่อยู่สู้แล้ว ไม่มีใครอยากจะสู้กับเจี๊ยบแล้ว เจี๊ยบอยากสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนและลูกที่โดนกระทำ ก่อนที่จะมีทีมงานเข้ามาช่วยเหลือ ภาวะจิตใจของลูกดีขึ้นแต่บางครั้งก็เศร้าอยู่บ้าง เวลาเรานั่งดูคลิปเขาก็จะเอามือปิดหูพร้อมบอกว่าอย่าเปิดได้ไหมลูกกลัว
เธอบอกอีกว่า ขณะนี้เขายังรับราชการอยู่ ยังจดทะเบียนกันอยู่ อยากจะหย่ากับเขาขึ้นไปหาเพื่อจะหย่า 2 ครั้งแล้ว แต่เขาหนีหลบหน้าไม่ยอมหย่า เขาเคยบอกว่ากับตนว่าเขาคือเจ้าพ่อเมืองเหนือ เขาคนมีนาย เขาเด็กนาย ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เขาเคยโทรมาขู่ว่าอย่ามายุ่งกับนายกูอีก ก่อนหน้านี้เคยไปร้องเรียนกระทรวงยุติธรรมมาแล้ว
“วันนี้เขาทำร้ายเรา วันข้างหน้าไม่ทราบเขาจะไปทำร้ายใครอีก ไม่อยากพูดถึงเคสหนองบัวลำภูเพราะคล้ายกันแต่เคสเรา เขาทำร้ายคนในครอบครัวทั้งลูกและเมีย แต่หนีรอดออกมาได้ อยากขอความยุติธรรมจากองค์กร และอยากดำเนินคดีกับเขาที่ได้ทำร้ายเรากับลูก ยืนยันจะขอหย่าร้าง อยากให้เขาออกไปจากชีวิตเรากับลูก เพื่อจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เราวสองคนจะมีความสุขมากกว่านี้”