อุตุฯใต้เตือน "ฝนตกหนัก" 10-13 พ.ย.65 ชาวเรือระวังทะเลมีคลื่นลมแรง

อุตุฯใต้เตือน "ฝนตกหนัก" 10-13 พ.ย.65 ชาวเรือระวังทะเลมีคลื่นลมแรง

ศูนย์อุตุฯใต้ ออกประกาศ ฉ.2 ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง มีผลกระทบในช่วงวันที่ 10-13 พ.ย.65 เตือนชาวเรือทะเลคลื่นลมแรง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 2 (34/2565) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง มีผลกระทบในช่วงวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2565 เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณ ทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนตกชุกหลายพื้นที่ และฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยส่งผลกระทบดังนี้

 

 

บริเวณที่มีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส บริเวณที่มีฝนหนักบางแห่ง ได้แก่ จังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

 

อุตุฯใต้เตือน \"ฝนตกหนัก\" 10-13 พ.ย.65 ชาวเรือระวังทะเลมีคลื่นลมแรง

 

 

นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา แจ้งเตือนชาวประมงสงขลาที่ออกเรือไปทำการประมงในอ่าวไทย หลังจากที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 2 (34/2565) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง มีผลกระทบในช่วงวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2565 อยากจะฝากเตือนชาวประมงสงขลาทุกคนที่ออกไปทำการประมงกลางทะเลอยู่ในขณะนี้ ขอให้ระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เพราะคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงนี้

 

ทั้งนี้ขอให้เฝ้าติดตามรายงานอากาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะรายงานเป็นระยะๆ หรือรับฟังทางวิทยุตัวใหญ่ วิทยุที่เราใช้ประจำในเรือประมงที่ใช้ระบบซิงเกิลไซด์แบรนด์ ที่มีการรายงานพยากรณ์อากาศอยู่ทุกๆชั่วโมง ทุกๆระยะ

 

"ขอให้ทำงานกันด้วยความระมัดระวังในระยะนี้ หากมีฝนตกหนักและคลื่นลมกลางทะเลมีกำลังแรงขอให้นำเรือหลบคลื่นลมตามเกาะแก่งต่างๆ เพื่อป้องกันคลื่นลมแรงซัดเรือจม และแจ้งตำแหน่งแหล่งที่เข้าไปหลบคลื่นลมให้ทางเจ้าของเรือทราบด้วย เพราะเจ้าของเรือจะได้ทำการประสานกับศูนย์รับแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) เนื่องจากทางศูนย์ฯจะได้มีข้อมูลว่า เรือของท่านได้ไปจอดหลบคลื่น ณ ตำบลแห่งไหน แล้วทางศูนย์ PIPO เขาจะได้ประสานทางศูนย์ของกรมประมงเพื่อจะได้เฝ้าดูให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด

 

ทั้งนี้เวลาเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติหรือว่าพายุรุนแรง ทางสมาคมประมง กรมเจ้าท่า และหน่วยงาน PIPO ของกรมประมง ก็จะทำงานร่วมกันและประสานกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อแจ้งชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำการประมงและในการเดินเรือมากขึ้นกว่าปกติ"

 

ข่าวโดย สันติภาพ รามสูต จ.สงขลา